ประจวบคีรีขันธ์-โฉนดที่ดินกับพื้นที่ทับซ้อนนิคมสร้างตนเอง
ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
โฉนดที่ดินกับพื้นที่ทับซ้อนนิคมสร้างตนเองประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 10 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบนายรวบ เปรมประสิทธิ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย ณ ที่ทำการ ม.14 บ้านทุ่งยาว ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าหลังทราบข่าวได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม กับคณะทำงานแก้ไขแผนที่ท้ายกฎกระทรวงป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี ส่วนที่ทับซ้อนกับแผนที่นิคมสร้างตนเอง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(ทสจ.ปข.) มีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
โดยนายรวบ กล่าวว่า เรื่องการขอออกโฉนดที่ดินในเขตพื้นที่ทับซ้อน ถือเป็นเรื่องที่ชาวบ้านโดยเฉพาะในเขตต.อ่าวน้อย ให้ความสำคัญและติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี ครั้งที่ตนและคณะได้เข้าพบนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ท่านได้กำชับสั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกรอบของกฎหมาย ในนามสภาองค์กรชุมชนฯ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากการรับฟังข้อมูลในที่ประชุมครั้งนี้ พบว่าขั้นตอนที่ส่วนราชการต้องดำเนินการต่อไปนั้นใกล้เสร็จสมบูรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 10 จุดที่ยังมีความสมบูรณ์คงสภาพป่าส่วนนี้ต้องกันออกคืนให้ทางกรมป่าไม้ดูแลรับผิดชอบ ส่วนคนที่ถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินสปก.และทับซ้อนอยู่ในเขตนิคม ทางผู้ปกครองแจ้งว่าต้องไปเพิกถอนสิทธิสปก.และเปลี่ยนมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกนิคม ทั้งนี้ตนคิดว่าหากไม่ติดขัดอะไรอีกสมาชิกนิคม คงได้รับเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินหลังรอคอยกันมาค่อนชีวิต นับตั้งแต่ก่อตั้งนิคมเมื่อปี 2512 ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงต้นเดือน มีนาคม 2564 นายรวบ ได้มอบหมายให้ นายดิเรก จอมทอง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย เดินทางไปกรมป่าไม้ บางเขน เพื่อสอบถามความคืบหน้าโครงการปรับปรุงแก้ไขแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติตามแนวทางปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ช่วงเวลานั้นเอง นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ มีหนังสือด่วนที่สุดถึง นายบุญเกื้อ เจี้ยมดี ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ให้ตรวจสอบและจัดส่งข้อมูลแผนที่รายละเอียดการจำแนกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ในส่วนที่ทับซ้อน พร้อมข้อมูล Shape File ให้กรมป่าไม้ทราบภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้นายดิเรก เคยเป็นผู้ประสานงานขอให้นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ในพื้นที่เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้ามาช่วยผลักดันในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/