อุตรดิตถ์-ทรงพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อและรถตรวจเอ็กซ์เรย์ ให้ รพ.

อุตรดิตถ์-ทรงพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อและรถตรวจเอ็กซ์เรย์ ให้ รพ.

ภาพ-ข่าว:พูลชัย ราชประสิทธิ์ 

       พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อพระราชทาน และรถตรวจเอ็กซ์เรย์ ให้กับ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์และทาง สสจ.อุตรดิตถ์แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มเป็น 32 ราย

        เมื่อเวลา 12.40 น.ของวันที่ 14 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายแพทย์เกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ นายแพทย์อายุสภมะราภา ผอ.โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก มณฑลทหารบกที่ 35 ค่ายพิชัยดาบหัก ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์การการติดเชื้อโรคโควิด 19 ซึ่ง ณ ปัจจุบัน จังหวัดอุตรดิตถ์มีผู้ติดเชื้อจำนวน 32 ราย
         นายแพทย์เกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์ สสจ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ของจ.อุตรดิตถ์ ในขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด จำนวน 32 ราย แบ่งออกเป็น 2 ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไป 13 ราย กับกลุ่มกำลังพลที่เป็นทหาร ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 19 ราย ในรายที่ 12 เป็นนักศึกษา มาจากเชียงใหม่ เดินทางโดยรถไฟเชียงใหม่-กรุงเทพ มีผู้โดยสารจำนวน 30 กว่ารายมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ในช่วงเวลากลางคืน ในวันที่ 10 ไปร่วมงานบวชพระที่วัดป่ากะพี้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย มีคนร่วมเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่ไม่สวมแมส
         หลังจากนั้นมาตรวจที่โรงพยาบาลพิชัย และพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพิชัย ส่วนในรายที่ 31 เป็นเพศหญิงเป็นนักศึกษา เรียนที่จังหวัดลำปาง บ้านอยู่ที่ตำบลบ้านเกาะ มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงที่เชียงใหม่ เดินทางกลับมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ในวันที่ 11 เมษายน และกักตัวอยู่ที่บ้านไม่ไปไหนเลย และเมื่อวานมาตรวจที่โรงพยาบาลสนามที่หมอนไม้ ผลตรวจออกเมื่อตอนเช้าวันนี้พบว่าติดเชื้อ แต่รายนี้น่าสนใจคือ ไปตรวจหาเชื้อจังหวัดลำปางแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายน ผลการตรวจไม่พบเชื้อ ซึ่งเป็นการตรวจในกลุ่มเสี่ยงมาก ตรวจครั้งเดียวอาจจะไม่เจอ แต่ต้องมาตรวจซ้ำ คือมาตรวจประมาณวันที่ 13 เมษายน สรุปคือตรวจครั้งเดียว ไม่ได้ ต้องมาทำการตรวจซ้ำอีกครั้งประมาณ 4-5 วันให้หลัง
          ในขณะนี้ทั้งจังหวัดมีอยู่หลายสิบรายหลังจากที่ทางแพทย์และพยาบาลตลอดจนผู้เชี่ยวชาญได้ไปทำการคัดกรองที่ โรงพยาบาลสนาม สนามกีฬาหมอนไม้ ซึ่งรายที่ 32 เป็นผู้ชาย อยู่ที่บ้านนายาง อ.พิชัย เดินทางกลับมาบ้านโดยรถยนต์ส่วนตัวเพียงคนเดียว เมื่อวันที่ 9 เมษายน กลับมาถึงบ้านแยกตัวอยู่คนเดียวกักตัว และเดินทางมาตรวจที่โรงพยาบาลพิชัย พบเชื้อโควิด19
           นายแพทย์อายุส ผอ.โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับผู้ที่จะเดินทางมาตรวจคัดกรองเชื้อโควิด 19 จำนวน 2 จุด คือจุดแรก ตรวจคัดกรองเบื้องต้น จุดที่ 2 ตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพมหานครและเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งซึ่งในส่วนของทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อพระราชทาน และรถตรวจเอ็กซ์เรย์ ให้กับโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ในส่วนของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ได้จัดตึกแยกต่างๆพร้อมกับรักษาอาการโดยการใช้ยาต้านไวรัส Favirpiravir ผู้ป่วยอาการดีขึ้นเป็นลำดับ
           ทางด้านของพ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก มณฑลทหารบกที่ 35 เปิดเผยว่า ตามนโยบายของกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกทุกแห่งในกองทัพภาคที่ 3 หน่วยทหารในพื้นที่ ดำเนินมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดภายในหน่วยทหารและป้องกันไม่ให้ไปแพร่เชื้อสู่ภายนอก กรณีที่ใีกำลังพลของมณฑลทหารบกที่ 35 ไปปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมา เมื่อกำลังพลเดินทางกลับ มาถึงทางผบ.มทบ35 มีคำสั่งให้กักตัวกำลังพลอยู่ที่หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 35 และเข้าทำการตรวจคัดกรองเพื่อหาเชื้อโควิด ซึ่งผลการคัดกรอง พบติดเชื้อโควิด จำนวน19 ราย และได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก จำนวน 17 นาย อีก2 นาย เป็นนายทหารหญิง มารักษาตัวที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และทาง ผอ.โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ได้จัดส่งยารักษาโรคคือ ยาต้านไวรัส Favirpiravir ให้กำลังพลทั้ง 2 นายที่อาการแย่เมื่อได้รับตัวยา เข้าไป อาหารดีขึ้น
         นายแพทย์อายุส ผอ.โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ย้ำเตือนว่า ให้ประชาชนทุกคนต้องสวมแมสหรือหน้ากากอนามัย ควรล้างมือบ่อย ๆอย่าเข้าไปใยังสถานที่ที่สุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมไปถึง ในขณะนี้ขอให้ไม่ต้องเดินทางมาเยี่ยมคนป่วยถ้าไม่จำเป็นจริง ๆผู้ที่มารับยาก็ขอให้ติดต่อกับทางโรงพยาบาลที่รับยาขอให้ส่งยาให้ทางไปรษณีย์ อย่ามารับยาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองเพราะไม่แน่ว่าอาจจะไปติดเชื้ออะไรกลับมาอีกก็เป็นไปได้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!