อยุธยา-ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการเปิดศูนย์พักฟื้น (Hospitel) และ รพ.สนาม
ภาพ-ข่าว:นราเอก ตันศิริ/นพดล บำเพ็ญสัตย์
รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการเปิดศูนย์พักฟื้น (Hospitel) และ รพ.สนาม ในพื้นที่ ม.ราชภัฏฯ และ มทร. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ย้ำรับมืออยู่แน่นอน วอนประชาชนอย่าวิตกกังวล
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 17 เมษายน 2564 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) พร้อมปลัดกระทรวงและผู้บริหาร ในการเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักฟื้น (Hospitel) ที่ ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (หันตรา) โดยมี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พันเอก(พิเศษ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จว. นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผศ.ไพศาล บุรินทร์วัฒนา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ นายแพทย์เศกสรรค์ ชวดีเลิศ ผอ.รพ.อุทัย นายบดินทร์ เกษมศานติ์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ และทีมบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน
สำหรับศูนย์พักฟื้น (Hospitel) ที่ หอพักอู่ทอง มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สามารถให้บริการได้ จำนวน 30 ห้องๆละ 2 เตียง รองรับได้ 60 เตียง โดยเมื่อวานนี้ ได้ย้ายผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวในหอแยกโรค ครบ 7 วัน ซึ่งมีอาการดีขึ้นและไม่พบโรคแทรกซ้อน จำนวน 13 ราย เข้าพักซึ่งมีการแยกชั้นเป็นชายและหญิง จัดแพทย์ประจำแต่ละชั้น เฝ้าดูแลความปลอดภัยผ่านกล้องวงจรปิด อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพร้อม อาทิ เตียง ตู้เสื้อผ้า แอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า ห้องน้ำ ห้องสุขา และห้องซักผ้า ในปริมาณที่เพียงพอ โดยการจัดตั้ง Hospitel แห่งนี้ เป็นความร่วมมือ ของ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กองทัพบก ที่ทำการปกครองจังหวัด กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ในการสนับสนุนทีมแพทย์พยาบาลและปรับปรุงโครงสร้างรวมถึง ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือ ให้พร้อมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ด้านความคืบหน้าโรงพยาบาลสนาม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (หันตรา) กองทัพบก ได้ร่วมส่งกำลังหน่วยทหารจาก กรมสรรพาวุธทหารบก กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ รวมถึง มทบ.18 จ.สระบุรี สนับสนุนการจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามของจังหวัด โดยจัดรถยนต์บรรทุก จำนวน 5 คัน พร้อมกำลังพลทหาร 50 นาย เพื่อขนย้ายพร้อมประกอบเตียงผู้ป่วย จำนวน 100 เตียง ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนาม ภายในวันที่ 21 เมษายนนี้
ด้าน ศ.ดร.เอนกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการนำคณะมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกส่วน โดยการนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อม ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น สาธารณสุขจังหวัด และทีมบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้เสียสละและทุ่มเทจัดตั้งศูนย์พักฟื้น (hospital) และโรงพยาบาลสนาม
สิ่งสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือท่านผู้ว่าฯ สามารถนำงบประมาณจากท้องถิ่นมาบริหารจัดการให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนได้อย่างเข้มแข็ง ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามครั้งนี้ สามารถจัดสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัด และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) อีกทั้ง มีความประทับใจกับกำลังพลทหารของกองทัพบก ส่งกำลังพลทหาร 50 นาย สนับสนุนการขนย้ายพร้อมประกอบเตียงผู้ป่วยในครั้งนี้ อว.ไม่ได้มีแต่เพียงมหาวิทยาลัย แต่ยังมีหน่วยวิจัยและพัฒนาอีกหลายแห่งที่จะเข้าไปช่วยตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อเกิดภาวะวิกฤติ ตนเองดีใจที่ อว.เป็นกองหนุนที่พร้อมในการทำงานในทุกจังหวัด เพื่อให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ ถ้าจำเป็นจะขยายมากกว่า 12,000 กว่าเตียงที่มีอยู่ในเวลานี้อีก อยากบอกประชาชนไทยว่า “อย่าวิตก ประเทศเรา มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” และขอให้ความมั่นใจว่า “เราจะผ่านโควิด-19 ระลอก 3 ไปได้อย่างแน่นอน”
ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเข้ามาใช้โรงพยาบาลสนาม ของ อว.ในทั่วประเทศ รวมแล้ว 1,179 เตียง ซึ่งทั้งหมดอาการไม่หนัก โดยใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ามา 346 ราย นอกจากนี้ เรายังมีระบบรองรับการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนักให้ไปถึงโรงพยาบาลหลักอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
โอกาสนี้ ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช. ) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ส่งมอบนวัตกรรมชุดที่นอนยางพารา 1,000 ชุด โดยมอบให้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (หันตรา) ร่วมกับ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 250 ชุด โดยจะนำไปใช้ที่โรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยCovid-19