ประจวบคีรีขันธ์-คดีไม่คืบหน้า มายาผับหัวหินต้นตอโควิดระบาดยังลอยนวล
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี
ประจวบคดีไม่คืบหน้า มายาผับหัวหินต้นตอโควิดระบาดยังลอยนวล ยังไม่ถูกสั่งปิด 5 ปี อ้างกล้องวงจรปิดชำรุด
วันที่ 22 เมษายน 64 ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีผู้ป่วยโควิด 19 ติดเชื้อสะสมล่าสุดรวม 897 ราย เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสริ์ต โจอี้ บอย ที่มายาผับ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 และ คลัสเตอร์จากผับ ร้านคาราโอเกะหลายแห่งใน อ.หัวหิน และ อ.เมืองประจวบฯ สำหรับมายาผับ ฝ่ายปกครองอำเภอได้รายงานว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.หัวหิน ตาม พรก.ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และก่อนการจัดคอนเสริ์ตในวันที่ 30 มีนาคม คาดว่า ศปก.อำเภอไม่ได้ตรวจสอบหรือเชิญผู้ประกอบการไปชี้แจงแนวทางป้องกันโรค ส่วนจะมองว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ขอเรียนว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เมื่อทางราชการขอความร่วมมือไปแล้ว หากทำผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับการสอบสวนสวนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการเจ้าของมายาผับ เนื่องจากเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้ป่วยโควิดมากถึง 1,000 ราย ภายในเดือนเมษายนนี้ ขณะนี้การดำเนินคดียังไม่มีความคืบหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน สาธารณสุขอำเภอหัวหิน ได้ไปแจ้งความที่ สภ.หัวหิน ฐานเข้าข่ายมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ที่มีค่าปรับ 6,000 บาทและประกาศคำสั่งจังหวัด สำหรับการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สถานบริการ เนื่องจากมีไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าปิดเกินเวลาที่กำหนดในเวลา 02.00 น. และทราบว่ามีผู้ร่วมดื่มกินในผับกว่า 1,500 ราย เมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม 2564 “ขณะนี้ฝ่ายปกครองจังหวัดยังไม่ได้รับหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเจ้าหน้าที่ที่ไปขอ
หลักฐาน ถูกอ้างว่าอุปกรณ์การบันทึกภาพชำรุด และล่าสุดยังไม่มีการพิจารณาเพื่อปิดสถานบริการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี”แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีเจ้าพนักงานปกครองอำเภอระดับสูงรายหนึ่งไปดื่มกินที่มายาผับในวันที่ 30 มีนาคม 2564 และมีรายชื่อเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน ถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และ มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ นายพัลลภ กล่าว ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหินตรวจสอบและให้รายงานเบื้องต้น ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการปิดป้ายด้านหน้าสถานประกอบการเป็นมายาผับ แต่ชื่อในใบอนุญาตเป็นชื่อเดิมนั้น ขอเรียนว่าชื่อใหม่เป็นชื่อในการทำธุรกิจ แต่ในใบอนุญาตเป็นชื่อไฮโฟว์ หลักปฎิบัติถือว่าทำได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าหากผู้ประกอบการมายาผับยกเหตุผลในการต่อสู้คดี กรณีฝ่ายปกครองอำเภอไม่เรียกเตือนเพื่อจัดระเบียบป้องกันโควิดก่อนจัดคอนเสริ์ต นายพัลลภ กล่าวว่า คงไม่ต้องตักเตือนเนื่องจากจังหวัดได้ออกคำสั่งขอความร่วมมือไปแล้ว ทางราชการไปตักเตือนทุกแห่งคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการฝ่าฝืนกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเที่ยวมายาผับในวันที่ 30 มีนาคม ก็ต้องดูเป็นรายบุคคลว่ามีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ยอมรับว่ามีข้าราชการหลายรายติดเชื้อโควิด และมีผลกระทบบ้างเกี่ยวกับการปฏิบัติงานบริการประชาชน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/