ลพบุรี-ทหารปืนใหญ่ค่ายภูมิพลบริจาคโลหิตสำรองให้รพ.ในสถานการณ์โควิด
ภาพ/ข่าว:กฤษณ์ สนใจ
ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล นำกำลังพล ร่วม บริจาคโลหิต ตามโครงการ กองทัพบกบริจาคโลหิต เพื่อชาติ เพื่อเป็นโล หิตสำรองให้กับโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตในการดูแลผู้ป่วย จากวิกฤต COVID – 19 ระลอกใหม่
พลตรี ทวนชัย นัดนะรา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ นำกำลังพล จากหน่วยขึ้นตรงในพื้นที่ ค่ายภูมิพล ฯ ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เข้าข่ายที่เป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 ประกอบด้วย กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย กองพันบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 50 นาย โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย รวม 100 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ ทบ.บริจาคโลหิต เพื่อชาติ ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตสำรองไม่เพียงพอต่อการนำที่ใช่ในการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย ในห้วงสถานการณ์การระบาด Covid – 19 ระลอกใหม่ เมษายน 2564 ณ สโมสรนายทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี
โดยมีเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และ ทีมแพทย์หมอทหาร จากหน่วยตรวจโรคศูนย์การทหารปืนใหญ่ มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรองกำลังพล ที่เดินทางมาบริจาคโลหิตในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID -19 ในสถานที่รับบริจาคอย่างเคร่งคัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ COVID-19 ทางโลหิต โดยได้โลหิตรวมทั้งสิ้น 49 ยูนิต รวม 19,600 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรอง สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ในโรงพยาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ในพื้นที่รับผิดชอบ รวม 8 จังหวัด ของสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 2 ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิต ขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19 รอบใหม่ เมษายน 2564 ตามนโยบายของกองทัพบก
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/