อยุธยา – ลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์กลุ่มบุคคลให้งดนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ภายในร้าน
ภาพ/ข่าว : นราเอก ตันศิริ : นพดล บำเพ็ญสัตย์
ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางบาลลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์กลุ่มบุคคลให้งดนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ภายในร้านขายข้าวตามคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อเวลา17.00 น.วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 นายวุฒิภัทร วงศ์นิ่ม ปลัดอำเภอ(เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ)รักษาราชการแทนนายอำเภอบางบาล มอบหมายนายแทนภพ ปราบณรงค์ ปลัดอำเภอบางบาลฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกอส.อ.บางบาลที่7 นายชาตรี ศรีชาติ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระขาว ลงพื้นที่ไปยังร้านขายข้าวหน้าเป็ด บริเวณใกล้วัดสีคต หมู่ที่ 6 ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องด้วยมีผู้ใช้เฟสบุคชื่อ นู๋แพรวา กับนู๋พิชา แจ้งในกล่องข้อความเฟสบุ๊คทางเพจผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า มีกลุ่มคนนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ บริเวณร้านดังกล่าว
จากการตรวจสอบ ไม่พบการดื่มแอลกอฮอลล์ดังที่แจ้งไว้ข้างต้น พบเพียงเจ้าของผู้ประกอบการร้านดังกล่าวเท่านั้น จึงนำภาพถ่าย ที่มีการแจ้ง ในเพจ เฟสบุ๊คของ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีกลุ่มบุคคลนั่งดื่มสุรากันบริเวณ ศาลาไม้สีเขียว ภายในบริเวณร้านดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าของร้านได้ยอมรับว่า มีบุคคลมานั่งดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอร์จริง แต่ทางร้านไม่ได้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ให้กับกลุ่มบุคคลที่ปรากฎในภาพแต่อย่างใด แต่กลุ่มบุคคล ได้นำ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เข้ามาเองและได้นำมาเปิดดื่มกันภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน โดยห้ามไม่ให้มีการนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ภายในร้าน ตามคำสั่งของทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามทางปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอบางบาล ได้แจ้งประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระขาว ดำเนินการเรียกนายสมนึก และกลุ่มคนตามภาพมาสอบสวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป จากนั้น ได้ดำเนินการออกประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่อีกจำนวน 2 ร้านที่ยังเปิดให้บริการ โดยประชาสัมพันธ์ห้ามมิให้มีการนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ภายในร้านโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 977/2564 เรื่องมาตราการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤติการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid 19) ฉบับที่ 30 ตามข้อ 4.2 หากฝ่าฝืนตามประกาศคำสั่งฉบับนี้ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/