ประจวบคีรีขันธ์-ไล่ล่าล้อมจับ 17 เมียนมาลอบเข้าไทยขายแรงงานโรงงานปลากระป๋อง

ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี 

          ไล่ล่าล้อมจับ 17 เมียนมาลอบเข้าไทยขายแรงโรงงานปลากระป๋องจังหวัดสมุทรสาคร หวั่นโควิดสายพันธุ์อินเดียระบาด

           วันที่ 24 พ.ค.64 นางลั่นทม งุ้ยไก่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้าน กม.12 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบเห็นบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ชาย-หญิง จำนวน 9 คน เดินลงจากชายป่าแนวเทือกเขาตะนาวศรี ที่บริเวณช่องทางธรรมชาติคุ้มเขาดิน ม.9 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผ่านสวนมะม่วงของชาวบ้านใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา แล้วมาแวะซื้อน้ำและอาหารเพื่อเป็นเสบียงที่ร้านค้าในหมู่บ้าน จึงได้ร่วมกับ นายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชรบ.พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เข้าจับกุมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.อ่าวน้อย ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อ covid19 และดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากหวั่นน้ำเชื้อ covid-19 สายพันธุ์อินเดียเข้ามาแพร่ในประเทศ

             หลังจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 9 ราย ส่งตำรวจภูธรแล้ว เวลาต่อมามีชาวบ้านแจ้งเพิ่มเติมว่าพบเห็นชาวเมียนมาร์อีก 3 ราย ลงมาซื้อน้ำและอาหารที่ร้านค้าแล้วรีบหนีกลับเข้าป่าแนวชายแดน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชรบ.เข้าไปปิดล้อมตรวจค้นเพิ่มเติมที่บริเวณสวนมะม่วง และแนวป่าช่องทางธรรมชาติ จนสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 8 ราย ขณะซ่อนตัวอยู่ชายป่าเพื่อรอนายหน้ามารับ รวมเป็น 17 ราย แบ่งเป็นชาย 12 ราย หญิง 5 ราย จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า กลุ่มคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ส่วนหนึ่งได้เดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ และเมืองภาคกอกกู(pakokku) ในเมียนมาร์ ใกล้กลับประเทศอินเดีย โดยทั้งหมดได้เดินทางลักลอบข้ามแดนหวังเพื่อไปทำงานขายแรงงานที่โรงงานปลากระป๋อง ในตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยจ่ายเงินให้ค่านายหน้านำพาจนถึงจุดหมาย คนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งสถานีตำรวจภูธรอ่าวน้อย และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบ(ตม.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจคัดกรองหาเชื้อ covid-19 ป้องกันการแพร่ระบาด covid-19 สายพันธุ์อินเดียในประเทศ

             ด้านแหล่งข่าวฝ่ายปกครองในพื้นที่เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า โดยส่วนตัวตนเองมีความสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ ตชด.และทหาร จึงมีการแบ่งพื้นที่เขตรับผิดชอบ โดยห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ตั้งด่านประจำอยู่ใกล้ชายแดนเข้าไปลาดตระเวนหากลุ่มบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการป้องกันการเข้าใจผิด โดยพื้นที่ใกล้ชายแดนทหารและ ตชด.จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ให้ฝ่ายปกครองรับผิดชอบพื้นที่ชั้นนอก ในขณะเดียวกันก็ยังพบเจอว่ามีกลุ่มชาวเมียนมาหลุดรอดเข้ามาพื้นที่ชั้นใน มาซื้อของตามร้านค้าและจับกุมได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคาดว่าเสบียงที่เตรียมมาคงหมด และหิว ทนความลำบากในป่าไม่ไหว จึงได้ลงมาหาซื้อเสบียงอาหารตามร้านค้าในหมู่บ้าน และบางครั้งยอมเดินมาให้เจ้าหน้าที่จับแต่โดยดี ซึ่งถ้าหากกำลังเจ้าหน้า ตชด.และทหารมีน้อยไม่เพียงพอ ทำไมถึงไม่ประสานกำลังการปฏิบัติ ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองซึ่งอยู่ในพื้นที่อยู่แล้วเข้าไปช่วยสนับสนุน เนื่องจากมีอำนาจหน้าที่ทางการปกครองในพื้นที่เช่นกัน จึงเกิดความสงสัยในประเด็นดังกล่าว

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/