สมุทรปราการ-แรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอลกลับถึงไทยแล้ว
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน Ms.ETTY MIZRACHI ( เอ็ตตี มิชราคี ) อัครราชทูต กงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางมาที่คลังสินค้าสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับร่างของ นายวีรวัฒน์ การุญบริรักษ์ อายุ 44 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และ นายสิขรินทร์ สงำรัมย์ อายุ 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ สองแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศในประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ลำเลียงขึ้นเครื่องบินของสายการบิน EI AI เที่ยวบินที่ LY081 ซึ่งเป็นเที่ยวบินอำนวยความสะดวกนำคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดให้เดินทางออกจากท่าอากาศยานเบนกูเรียน เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 และเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันนี้ที่ 26 พฤษภาคม 2564 ในเวลา 12.30 น.โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายจะถูกนำลำเลียงส่งกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดเพชรบูรณ์และบุรีรัมย์ด้วยรถยนต์ตู้ ที่ทางกระทรวงแรงงานได้จัดเตรียมไว้จำนวน 2 คัน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงแรงงานจัดการส่งศพแรงงานไทยกลับภูมิลำเนาและดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศในอิสราเอล โดยประสานเอกอัครราชทูตอิสราเอล นำร่างสองแรงงานไทยเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยพร้อมแรงงานไทยอีกจำนวน 18 คนที่แจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทย และถูกส่งเข้ากักตัว 14 วัน ตามมาตรการของรัฐที่ ศบค.กำหนด ก่อนกลับภูมิลำเนา โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งสองให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเต็มที่ โดย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จะลงไปเยี่ยมครอบครัวของแรงงานและมอบสิทธิประโยชน์การช่วยเหลือตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตทั้ง 2 รายคือ นายวีรวัฒน์ การุญบริรักษ์ ทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์ในประเทศไทย รวม 94,798.81 บาท ประกอบด้วย เงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 40,000 บาท และ สิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมประเทศไทย 54,798.81 บาท ส่วนสิทธิประโยชน์จากการทำงานในประเทศอิสราเอล ประกอบด้วยเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม) ประมาณ 102,820 บาท เงินทดแทนจากสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล เดือนละประมาณ 52,380 บาท และค่าจ้างค้างจ่าย ส่วนนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ ทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์ในประเทศไทย รวม 90,389 บาท ประกอบด้วยเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 40,000 บาท และสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมประเทศไทย 50,389 บาท ส่วนสิทธิประโยชน์จากการทำงานในประเทศอิสราเอล ที่จะได้รับประกอบด้วย เงินทดแทนจากสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล เดือนละประมาณ 52,380 บาท เงินค่าจ้างค้างจ่าย แต่ไม่ได้รับเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง เนื่องจากทำงานไม่ครบ 1 ปี โดยทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานในประเทศไทย ในวันที่ 25 – 26 พฤษภาคม 2564
สำหรับสิทธิประโยชน์จากการทำงานในประเทศอิสราเอลเป็นค่าประมาณการ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาทายาทเพื่อรับเพื่อเงินทดแทนรายเดือนจากสำนักงานประกันสังคมอิสราเอลนั้น ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย ได้แก่ บิดา มารดา ภรรยาที่สมรสตามกฎหมาย และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย อายุไม่เกิน 18 ปี โดยส่วนแบ่งที่ทายาทแต่ละคนจะได้รับพิจารณาจากภาวการณ์พึ่งพิงหรือการดูแลที่ได้รับจากผู้เสียชีวิต และความสามารถในการเลี้ยงชีพของทายาท ระยะเวลาการได้รับเงินชดเชย บิดา มารดา ได้รับทุกเดือนจนเสียชีวิตภรรยาที่สมรสตามกฎหมาย ได้รับทุกเดือนจนเสียชีวิต หรือสมรสใหม่ บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ได้รับทุกเดือนจนอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จะเร่งติดตามความคืบหน้าต่อไป
นอกจากนี้ นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้ดำเนินการจัดให้แรงงานจากโมชาฟโอฮาดที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วยจรวดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 18 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวรวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 8 ราย ได้แก่ นายณรงค์ศักดิ์ รอดชมพู อายุ 32 ปี ชาว จ.อุดรธานี นายเชรฐา ผลาพรม อายุ 40 ปี ชาว จ.อุดรธานี นายจักรี รัตพลที อายุ 31 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู และนายธนดล ขันธชัย อายุ 26 ปี ชาว จ.อุดรธานี นายปรีชา แซ่ลี้ อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงราย นายสมศักดิ์จันทร์ภักดี อายุ ปี ชาว จ.สุรินทร์ นางสาวจรัสศรี กล้าแข็ง อายุ39 ปี ชาว จ.หนองคาย นายอัครชัย ธรรมแก้ว อายุ 28 ปี ชาว อุบลราชธานี และแรงงานที่สมัครใจกลับอีก 10 คน ร่วมเดินทางกลับประเทศไทยด้วยเที่ยวบินนี้ด้วย