จันทบุรี-รับตัวคนไทยที่ลักลอบเข้าเล่นการพนันและทำงานออนไลน์ในกัมพูชา
ภาพ/ข่าว ดนุชเดช ทองเปรม
หลังถูกทางการกัมพูชาจับกุม 9 คน พบ 3 รายมีอาการไข้และมีชายอายุประมาณ 50 ปี มีอาการอาเจียน มีไข้สูง ต้องรีบนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อนเป็นด่วน!
ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นาวาเอกศราวุธ บุตรเสรีชัย หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ตำรวจภูธรโป่งน้ำร้อน ได้เดินทางเข้ารับตัวคนไทย 9 ราย ที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายกัมพูชา ขณะลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณแนวชายแดน จ.จันทบุรี เป็นชาย 5 ราย และหญิง 4 ราย จากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกัมพูชา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดียังด่านตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ก่อนส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีคนไทยที่ถูกจับกุมมีอาการมีไข้สูง 3 รายเป็นชาย 2 หญิง 1 ราย ซึ่งชายอายุ 50 ปี มีการหนัก ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน ทำให้จังหวัดจันทบุรีต้องเตรียมพร้อมรับคนไทยที่ลักลอบผู้เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามไปเล่นการพนันและทำงานในบ่อนพนันในพื้นที่ริมชายแดน เนื่องจากทาวกัมพูชาได้ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยในบ่อนการพนันแล้วหลายราย ทางการกัมพูชาจึงได้สั่งปิดบ่อนการพนันทุกแห่ง ทำให้คนไทยที่บักลอบข้ามไปเล่นการพนันและทำงานในบ่อนออนไลน์ได้รับผลกระทบประกอบกับเริ่มมีคนไทยในบ่อนป่วยติดเชื้อโควิด19 แล้วหลายราย ทำให้ต้องยอมเดินเท้าออกมาให้ทางการกัมพูชาจับกุมเพื่อผลักดันกลับมารักษาในไทย ซึ่งตม.จันทบุรีได้บันทึกประวัติบุคคลแล้ว 123 คน(ตั้งแต่วันที่ 1พ.ค ถึง1 มิ.ย.64) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรีได้เผยแพร่ข้อมูลผู้ป่วยที่เป็นคนไทยจากประเทศกัมพูชา มารักษาแล้ว 14 ราย และล่าสุดพบเพิ่มอีก 11 ราย รวมเป็น 25 ราย และทราบมาว่าทางทหารกัมพูชาได้จับกุมเพิ่มอีก 10 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบถามกับคนไทยที่ถูกผลักดันกลับมาให้ข้อมูลว่าในบ่อนการพนันยังมีคนไทยอีกเป็นจำนวนมาก ที่แอบลักลอบเข้าไปทางช่องทางธรรมชาติและเริ่มมีอาการป่วยแต่กลัวมีความผิดจึงได้แอบหลบอยู่ในห้องพักต่างๆในระแวกบ่อนการพนัน
ด้านหญิงไทยอายุ 20 ปี กล่าวว่าตนเองและสามีได้ถูกเพื่อนชักชวนให้เข้าไปทำงานในบ่อนพนันออนไลน์ในกัมพูชา ได้ประมาณ 2 เดือน โดยเดินทางลักลอบเดินเท้าเข้าทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าที่ประกาศหางานเป็นผู้นำพาเข้า และเมื่อเข้าไปทำงานจะมีรายได้เดือนละ 12,000 บาท แต่ถูกค่าต่างๆหลายอย่าง จนมามีโควิด19 ระบาดหนัก ทำให้ทาวการกัมพูชาประกาศปิดบ่อนการพนัน ทำให้ตนเองและสามีอยู่อย่างยากลำบาก จึงตัดสินใจติดต่อนายหน้าที่เป็นชาวกัมพูชาให้พาออกจากชายแดน โดยเก็บเงินคนละ 4,000 บาท แต่นำตนและสามีมาปล่อยทิ้งไว้ในป่า แจ้งเพียงว่าให้เดินตรงไป มุ่งหน้าชายแดน ตนเองจึงพยายามเดินฝ่าความมืดจนมาพบแสงไฟของบ้านจึงได้เดินเข้าไปหา แต่เมื่อเดินไปถึงพบเป็นค่ายทหารกัมพูชาจึงได้ถูกจับกุมและนำตัวส่งดำเนินคดีเสียค่าปรับ และถูกผลักดันกลับมายังประเทศไทย ตนเองขอฝากเตือนทุกคนที่คิดจะมาทำงานในต่างประเทศ อย่าได้ทำ เพราะจะถูกหลอดมาทำงานและหักเงินไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้เหมือนกับตนเอง
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/