จันทบุรี-ตลาดชายแดนบ้านแหลมโมเดล ตรวจโควิด19

ภาพ/ข่าว ดนุชเดช ทองเปรม จันทบุรี

          ตลาดชายแดนบ้านแหลมโมเดล ตรวจโควิด19 เชิงลึกกลุ่มผู้ขับรถและพนักงานประจำรถรถขนส่งสินค้าก่อนเข้า-ออกผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา

             ตลาดการค้าชายแดนบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จังหวัดจันทบุรีได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอโป่งน้ำร้อน ลงพื้นที่ตรวจโควิด19 เชิงรุกในกลุ่มผู้ขับรถสินค้าทั้งคนไทยและกัมพูชา ที่ผ่านเข้า-ออกด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยตั้งเป้าหมายจำนวน 400 คน เพื่อสร้างพื้นที่ให้ปลอดภัยไร้โควิด19 ซึ่งในพื้นที่นี้เป็นจุดกระจายสินค้าไปยังกัมพูชาที่มีมาตรฐานบนพื้นฐานความปลอดภัย 100% ที่ผ่านมาตลาดการค้าขายแดนบ้านแหลมได้เปิดรองรับกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่มีการเดินทางจากทั่วประเทศเพื่อเข้ามาสู่ระบบการขนถ่ายสินค้ารวมถึงสินค้าทางการเกษตรเช่นผลไม้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ผลไม้ทุเรียน เงาะ มังคุด จากตลาด เนินสูง จันทบุรี นำเข้ามาขายส่งต่อให้พ่อค้าคนกลางจากกัมพูชา ซึ่งคัสเตอร์โควิด19 ในส่วนของพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนพบผู้ป่วยแล้วกว่า 60 คน ที่เป็นประชาชนในพื้นที่และพบผู้ป่วยในกลุ่มคนไทยที่ลักลอบเข้าไปทำงานและเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 181 ราย ทำให้ทางจังหวัดจันทบุรีและตลาดการค้าชายแดนได้มีแผนในการคักกรองโควิดอย่างเข้มข้นและจะทำให้เป็นโมเดลชายแดนแห่งแรกที่มีการตรวจคัดกรองแบบนี้

               ด้านดร. รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่มีการระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด19 จนสภาพเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนเดินไปได้ ในวันนี้ตลาดชายแดนไทยกัมพูชา เรามีการตรวจโควิด 100% ภายใต้นโยบายของจังหวัด ฉะนั้นผู้ประกอบการชายแดนพร้อมทั้งชาวบ้านที่อย๊นิมชายแดนได้มีการตรวจไปแล้ว และวันนี้จึงมีโดเมลใหม่ผู้ที่มากับรถที่มารับสินค้าจากไทยไปกัมพูชาหรือจากกัมพูชามาไทย จะต้องผ่านการตรวจโควิด19ทุกคน พื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัย พร้อมออกใบรับรองว่าผ่านการตรวจโควิด19แล้ว และภายใน1อาทิตย์จะมีการตรวจกันหนี่งครั้ง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือว่าเป็นโมเดลที่สามารถนำไปใช้ได้ในระดับประเทศภายใต้แนวคิดของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และเป็นผลดีต่อชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนและผู้ประกอบการต่างๆ สามารถนำพาเศรษฐกิจให้เดินไปได้อย่างยั่งยืน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/