ปทุมธานี-ขอมากไปไหม เอกชนวอนขอเปิดนำเข้าวัคซีนเสรีไม่ผ่านตัวแทนรัฐ

ปทุมธานี-ขอมากไปไหม เอกชนวอนขอเปิดนำเข้าวัคซีนเสรีไม่ผ่านตัวแทนรัฐ

ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา

ขอมากไปไหม เอกชนวอนขอเปิดนำเข้าวัคซีนเสรีไม่ผ่านตัวแทนรัฐ

            วันนี้ 5 กค. 64 นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ประธานเครือข่ายเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ ให้ความเห็นจากกรณีที่มีปริมาณการแห่จองความต้องการวัคซีนทางเลือก เช่น ไฟเซอร์เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศ ถึงแม้จะต้องจ่ายเงินเองก็ตาม แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับชีวิต และบุคคลรอบข้างโดยประชาชนต้องการเลือกวัคซีนที่ดีที่สุดมาฉีด รัฐบาลควรให้สิทธิ์เอกชนเปิดเสรีนำเข้าอิสระ ไม่ล็อคคอขวดทางเข้าวัคซีน ไม่จำเป็นต้องซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐ เพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ นาทีที่ต้องทำงานแข่งกับการเสียชีวิตของประชาชนรายวัน เพราะโควิด หรือภาวะเศรษฐกิจ ประชาชนควรมีสิทธิ์เลือกวัคซีนของตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง ควรตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากมาตรฐานโลกทั้งที่ไม่สามารถคิดค้นผลิตวัคซีนได้เอง แต่มีขั้นตอนการออกใบอนุญาตได้ละเอียดอาจมากกว่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลก ขอรัฐบาลพิจารณาข้อเสนอแนะดังนี้

1. เปิดเสรี ให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนได้เสรีไม่ผ่านตัวแทนภาครัฐ หรือองค์การเภสัชฯ และคอยควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินไป
การที่รัฐบาลต้องรอให้เอกชนจ่ายเงินมาที่องค์การเภสัชฯแล้วถึงทำสัญญากับโมเดอร์นา ไฟเซอร์ ทำให้การสั่งวัคซีนล่าช้าเกินจำเป็น และไม่หยืดหยุ่นกรณีที่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนความต้องการของวัคซีนลง ยังเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนที่ต้องควักเงินจ่ายค่าวัคซีนล่วงหน้าไปเป็นระยะเวลาหลายเดือน ดูดซับสภาพคล่องทางเศรษฐกิจซึ่งไม่เป็นดีแต่อย่างใด
2. รัฐบาลนำเข้าวัคซีนทางเลือก รัฐบาลไม่มีวันไปถึงจุดหมายถ้าเดินหน้าไปผิดทางอย่างมั่นใจ ควรถอยและเร่งสั่งวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนมั่นใจเข้ามา ถึงเรียกว่าเพื่อความมั่นคงและความสุขของประชาชนอย่างแท้จริง การบริหารงานการผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ เมื่อผิดรีบถอยกลับมาแก้ ยิ่งเป็นเรื่องชีวิตประชาชน ควรคำนึงเหมือนเป็นชีวิตครอบครัวเดียวกัน
3. ในเวลาที่โรงพยาบาลรัฐเต็ม การติดเชื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างวิกฤต ควรใช้ค่ายทหาร หรืออาคารภาครัฐที่ปลูกสร้างแล้วรกร้างมาทำเป็นโรงพยาบาลสนาม จะได้ใจประชาชน ไม่ใช่การเสียสละฟูกของกำลังพลชั้นผู้น้อย เมื่อได้ใจประชาชนก็รักทหาร นั่นคือความมั่นคงที่แท้จริง
4. รัฐบาลควรรับภาระการรักษา ค่าวัคซีนที่ดีที่สุดให้กับประชาชน ทุกคนย่อมรักชีวิตตัวเอง ผู้ที่จ่ายเงินค่าวัคซีนไปแล้วควรได้รับการชดเชย
5. ยกเลิกระบบการละทะเบียน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กลับสร้างภาระและต้นทุนในการลงทะเบียนเข้าใจว่าที่ผ่านมาเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่ปัจจุบันความเชื่อมั่นอยู่ในขั้นวิกฤต ควรใช้บัตรชาชนใบเดียวก็สามารถฉีดวัคซีนได้ผ่านสมาร์ทการ์ด
6. การฉีดวัคซีน ต้องใช้วัคซีนที่ผลป้องกันสูงสุดเชิงประจักษ์เท่านั้น ไม่ปิดตาเชื่อในวัคซีนที่มี เพราะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นของประชาชนและต่างประเทศ
7. การฉีดวัคซีนพิจารณาจากพื้นที่สีแดง ก่อนไม่ใช่กระจายฉีดเท่ากับทั่วประเทศ ในทางปฏิบัติจะเห็นว่าบางอำเภอ ได้วัคซีนเพียงขวดเดียว ไม่มีประโยชน์ใดๆ สิ้นเปลืองบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่จำเป็นขณะที่บุคลากรกำลังขาดแคลน
8. ระบบ Single command ผู้นำควรมีความสามารถ และใช้ผู้รู้ (technocrats) ผู้เชี่ยวชาญในการตัดสินใจ เพราะผู้นำไม่ได้เก่งในทุกเรื่อง
9. ร้านอาหาร ผู้ประกอบการรายเล็กน้อย ให้ดูแลตัวเองและเปิดกิจการได้ทันที ผู้ประกอบการรายใดไม่มีความพร้อมค่อยสั่งปิดเป็นรายไป การติดส่วนใหญ่มาจาก cluster ต้องแก้ที่ cluster จุดเกิดของปัญหาไม่ใช่แก้แบบเหมารวมทั้งหมดเป็นการตัดปัญหาที่ง่ายแบบไม่ใช้ความคิดในการแก้ปัญหา
10. ผู้นำไม่ควรฟังเสียงรอบข้างที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ทำงานเพื่อประชาชนคือการฟังเสียงและความต้องการของประชาชน เพียงอ่าน comments ก็จะรู้สถานะสังคมในปัจจุบัน มนุษย์ย่อมทำผิดได้ก็แก้ไขถึงเป็นเรียกว่าผู้นำที่ดี คงไม่มีผู้นำหรือรัฐบาลใดหากินกับวัคซีน มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นโดย ขอสังคมเชื่อมั่นในผู้นำโดยเฉพาะชายชาติทหารที่ต่อสู้เพื่อประชาชนมา ย่อมรักในประเทศของตน เห็นชีวิตประชาชนและความจำเป็นในการมีวัคซีนที่ดีเพื่อสู้กับข้าศึกเฉพาะหน้าสำคัญกว่าการซื้ออาวุธ ยอมสละแม้ชีพ ยศ ตำแหน่งได้เพื่อประชาชน เมื่อวิกฤตผ่านพ้นการป้องกันประเทศต้องใช้อาวุธที่ดี เช่นเดียวกับวัคซีนที่ดีเพื่อประชาชน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!