เชียงใหม่-ประชุมร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ภาพ-ข่าว:สุดาภรณ์ อินต๊ะธรรม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

       จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2564-2570 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมกระบวน การปฏิบัติงานและแนวโน้มภัยพิบัติ
        วันนี้ (8 ก.ค. 64) ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรี ณัฐพงค์ ฐิตวิกรานต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดทำร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2564-2570 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
         เนื่องด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง มอบหมายให้ทุกจังหวัดเตรียมการจัดทำ (ร่าง) แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พ.ศ.2564-2570 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เสนอแผนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศใช้ภายในปี พ.ศ.2564 คู่ขนานไปกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2564-2570 อีกทั้งเพื่อให้การจัดทำแผนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมกระบวนการปฏิบัติในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เป็นอย่างดี สามารถป้องกัยและลดความสูญเสียด้านต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
         โดยในที่ประชุมได้มีการหารือ ชี้แจงเป้าหมาย วัตถุประสงค์ของการจัดทำแผนฯ รวมทั้งรับฟังปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการจัดทำแผน ทั้งการพิจารณาทบทวนปรับปรุงและจัดทำแผนเดิมที่มีอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนและลดเวลาในการหาข้อมูลบางส่วน รวมทั้งสามารถสร้างความเชื่อมโยงกับแผนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้กำหนดแผนฉบับใหม่ให้ถูกต้องสอดคล้องกับแนวโน้วของภัยพิบัติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้ร่วมกันวิเคราะห์ความเสี่ยงอันตราย การประเมินความสามารถขององค์กร ให้นำไปสู่การจัดทำร่างแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อย่างไรก็ตามการจัดทำแผนดังกล่าว จะต้องมีการคำนึงถึงชุมชนและองค์กรในการเตรียมความพร้อมที่ดีต่อการป้องกันสาธารณภัย ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ภายใต้ความเสี่ยงอันตรายจากสาธารณภัยประเภทต่างๆ ที่อาจะเกิดขึ้นในพื้นที่
        ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะได้ร่วมการปรับปรุงแผนดังกล่าว เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อนนำร่างแผนฯ เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะรัฐมนตรี หากได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว จะมีการประกาศใช้ต่อไป