นครสวรรค์-เกษตรก้าวหน้า..ปรับเปลี่ยนผืนนาเป็น”สวนอินทผลัม”สร้างรายได้แบบยั่งยืน
ภาพ-ข่าว:วสุกิจจ์ เหล่าอินทร์
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวและชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เริ่มเดินทางเข้าชมสวนอินทผลัมบ้านมีผล ในพื้นที่ ตำบลสร้อยละคร อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ กันอย่างต่อเนื่อง หลังสวนดังกล่าวมีผลอินทผลัมที่เริ่มสุกและมีผลผลิตออกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้ซื้อเป็นของฝากและรับประทานกันแล้วหลากหลายสายพันธุ์
ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์ โปร่ง โล่ง กลางทุ่งนา พร้อมจุดถ่ายรูปเช็คอินที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ท่ามกลางมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนเข้าสวนโดยลงทะเบียน วัดไข้และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์กับผู้เข้าสวนทุกคน
จากการเปิดเผยของนายมณเทียร เหมะสถล เจ้าของสวนบอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองนั้นทำนาข้าวทั้งหมด 12 ไร่ แต่เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำมีรายได้ไม่แน่นอนไม่เพียงพอกับการดำรงค์ชีพ จึงคิดหาอาชีพที่สร้างรายได้ให้ได้มากกว่าการทำนา จึงปรับเปลี่ยนผืนนามาปลูกอินทผลัมโดยเริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีผลผลิตออกมาจำหน่ายสร้างรายได้แล้ว โดยอินทผลัมที่ปลูกมีทั้งสิ้น 4 สายพันธุ์ คือพันธุ์บาร์ฮี พันธุ์โคไนซี พันธุ์นาวาเดอร์ และพันธุ์เคแอลวัน จำนวนกว่า 400 ต้น
โดยการจำหน่ายจะเปิดให้เข้าชมสวน ซึ่งมีทั้งจุดถ่ายรูป พร้อมกับให้ความรู้กับผู้ที่สนใจ โดยตนเองจะคอยแนะนำและให้ความรู้ทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง ในขณะเดียวกันก็ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอินทผลัมก่อนเลือกซื้อ ซึ่งถ้าหากชิมแล้วเกิดความพอใจค่อยซื้อกลับบ้าน แต่ถ้าหากไม่พอใจไม่ซื้อทางสวนก็ไม่ว่าอะไร ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า ส่วนราคานั้นจะเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 350-500 บาท แล้วแต่ขนาดและสายพันธุ์ของอินทผลัม ซึ่งก็เริ่มสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอินทผลัมหนึ่งต้นจะให้ผลประมาณ 60-80 กิโลกรัม คิดเป็นรายได้ต้นละประมาณกว่า 3 หมื่นบาท ซึ่งลงทุนครั้งเดียวสร้างรายได้แบบยั่งยืนตลอดชีวิตทดแทนความเสี่ยงจากอาชีพทำนาข้าวได้เป็นอย่างดี