สมุทรปราการ-สารเคมี สไตรีน กว่า 900 ตัน บริษัท หมิงตี้ ถูกขนย้ายทำลายหมดแล้ว
ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
สารเคมี สไตรีน กว่า 900 ตันของบริษัท หมิงตี้ ถูกขนย้ายไปทำลายหมดแล้ว
จากเหตุการณ์ถังเคมีในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล ซึ่งตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้เกิดระเบิดขึ้นและเกิดเพลิงลุกไหม้เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังเพลิงสงบพบว่ายังมีสารเคมีอันตราย สารเคมีสไตรีน โมโนเมอร์ หลงเหลืออยู่ในถังบรรจุเคมีขนาดใหญ่อีกว่า 1,100 ตัน ประมาณกว่าหนึ่งล้านลิตรและได้มีการว่าจ้างให้ทางบริษัท อัคคีปราการ เป็นผู้ดำเนินการขนย้ายเคมีไปเผาทำลายตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาเป็นทำการปล่อยรถโฮโซนแท็งค์ ซึ่งเป็นรถขนย้ายสารเคมี สไตรีนไปทำลายเที่ยวสุดท้าย ครบตามจำนวนที่หลงเหลืออยู่ในถังบรรจุ ในบริษัท หมิงตี้ แล้ว
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า วันนี้ที่เราเข้ามาเพื่อที่ปล่อยรถคันสุดท้ายของการขนย้ายสารสไตรีน โมโนเมอร์ ซึ่งเริ่มทำการขนย้ายมาตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เราขนย้ายสารสไตรีน ที่อยู่ในถังบรรจุจำนวน 913.69 ตัน ซึ่งจากเดิมที่ประเมิลไว้ประมาณ 1 พันคิวหรือ 1 ล้านลิตร ตั้งแต่วันแรกที่มีการขนย้ายมาจนถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 6 วันและในวันนี้เป็นการขนย้ายเที่ยวสุดท้ายแล้ว ส่วนทางด้านคดีขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว แล้วจำนวนกว่า 2 พันราย รวมค่าเสียหายทั้งหมดกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งมีทั้งบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายรวมยานพาหนะรถยนต์กว่า 1 ร้อยคันและมีทรัพย์สินอื่นๆที่ได้รับความเสียหายด้วย ส่วนทางด้านการสอบสวนทางตัวผู้จัดการและพนักงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนในเรื่องการเยี่ยวยาสภาพจิตใจของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เราได้ทำมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่เกิดเหตุโดยเฉพาะบ้านจัดสรรเราก็ให้ทางพนักงานจัดสรรที่ดินติดต่อทางโครงการให้ดูแลพี่น้องที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านจัดสรรโดยจัดเจ้าหน้าที่ของโครงการเข้ามาตรวจสอบและซ่อมแซมให้ และโครงการอื่น ๆ ก็ทำด้วยเช่นกัน หลังจากที่เคลียร์พื้นที่ได้หมดแล้วก็จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้งพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนที่จะต้องเข้ามาดูและเก็บหลักฐาน เพื่อมาประมวลว่าเกิดจากอะไรถึงจะวิเคราะห์สาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร ในส่วนสถานการณ์ที่ผ่านมาเราก็มีอุปสักอยู่บ้าง ทั้งในเรื่องของการดับเพลิงก็ดีในเรื่องของการขนย้ายสารเคมีก็ดี เนื่องจากเราไม่มีแบบแปลนโครงสร้างพิมพ์เขียวของโรงงาน ทำให้เราไม่รู้ถึงความสลับซับซ้อนในการทำงาน ในเรื่องนี้ก็จะมีการเสนอหน่วยเหนือว่า เมื่อได้รับอนุญาตแล้วพิมพ์เขียวนอกจากเก็บอยู่ที่ต้นเรื่องที่ไหนควรจะต้องไปอยู่ที่ปลายทาง ในกรณีที่เกิดเหตุในลักษณ์เดียวกันโรงงานที่มีการจัดเก็บสารเคมีควรจะต้องเก็บพิมพ์เขียวไว้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดด้วย เผื่อเวลามีปัญหาลักษณ์นี้จะได้แก้ปัญหาได้ทันท้วงที
ส่วนในเรื่องการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบก็มีหลายส่วน ส่วนของระดับอำเภอเราก็ประชุม กช.ปอ.เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามที่ร้องขอ ในส่วนของจังหวัดก็มีการขอกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรีและส่วนที่เกี่ยวข้อง และก็ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆโดยเฉพาะภาคเอกชนก็ได้ให้การช่วยเหลือ อาธิเช่นสมาคมไต้หวัน ก็ได้เข้ามาดูแลส่วนหนึ่งและจะมีส่วนที่จะเพิ่มเติมมาภายหลัง และทางบริษัทใหญ่ที่อยู่ในไต้หวันก็ยินดีที่จะรับผิดชอบด้วย ส่วนการส่งมอบพื้นที่เกิดเหตุคืนให้กับพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้พบว่าในที่เกิดเหตุยังมีสารเคมีอยู่อีกหลายตัวแต่เท่าที่ตรวจสอบแล้วไม่เป็นอันตราย จึงต้องให้ทางบริษัทอัคคีปราการดำเนินให้แล้วเสร็จก่อนถึงจะส่งคืนพื้นที่ในพนักงานสอบสวนได้ ส่วนที่ชาวบ้านยังกังวลเรื่องการปนเปื้อนสารเคมีในอากาศ ในน้ำ และในดิน นั้นตลอดระยะเวลาที่มีการขนย้ายมาจนถึงปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษได้เข้ามาตรวจสอบตลอดทุกวันทั้งในพื้นที่เกิดเหตุและรอบข้างพบว่าขณะนี้พบว่าผลการตรวจอยู่ในสภาพปกติทุกอย่างแล้ว
ส่วนทางด้าน นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท อัคคีปราการ ได้เปิดเผยว่า อย่างที่ท่านผู้ว่าบอกไว้ว่ามันไม่ได้เป็นสารเคมีอันตรายอะไร แต่เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ตรงนี้ ต่อจากทีมของตนไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทางบริษัทประกันของทางบริษัท ก็อยากให้มั่นใจว่าตัวสารเคมีมันได้ถูกเอาออกไปหมดแล้วก็คิดว่าน่าจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 1 อาทิตย์น่าจะแล้วเสร็จ