ปทุมธานี-เอกชนขอตร.ทบทวนใช้เฟคนิวส์และวอนขอหน่วยช่วยเหลือประชาชน

ภาพ/ข่าว:อนันต์ วิจิตรประชา

เอกชนขอตร.ทบทวนใช้เฟคนิวส์และวอนขอหน่วยช่วยเหลือประชาชน

             วันที่ 30 กค. 64 นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ประธานเครือข่ายเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ ได้ให้ความเห็นถึงกรณีการโพสต์รูปชายเสียชีวิตข้างถนนและข้อเสนอแนะไปยังตำรวจว่า เมื่อวานทีมงานน้องผมลงพื้นที่พบศพขึ้นอืดคาบ้านบริเวณสุเหร่าบ้านสมเด็จ เสียชีวิตในบ้าน สอบถามเบื้องต้นโทรไปหลายแห่งไม่มีใครกล้าเข้าไปเก็บศพทำให้ล่าช้า จึงประสานมายังชมรมสองล้อใจบุญน้องผมช่วยเก็บศพออกมาฌาปนกิจเรียบร้อย เป็นช่วงเวลาที่ผมได้ข่าวว่าพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในการโพสต์จัดฉากศพว่ามีเจตนาสร้างความตื่นตระหนกหรือไม่ และดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ผมขอให้ความเห็นว่าการโพสต์ดังกล่าวนั้นเมื่อโพสต์ตามภาพจริง ไม่ได้มีการจัดฉาก ย่อมขาดเจตนาตามม.59 ป.อาญา คงต้องวิเคราะห์ถึงคำพูดที่ใช้ในการโพสต์ต่อไป ซึ่งทางตร.ได้แถลงว่าอาการดังกล่าวมาจากการชักเกร็ง โดยประสานหน่วยเอราวัณพาชายคนดังกล่าวไปพักที่ปลอดภัยใต้สะพานลอย สรุปประเด็นดังนี้
1.การแถลงที่ว่าการชักเกร็งเกิดจากการเมาสุราโดยปราศจากข้อมูลทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ควรพาไปส่งรพ.และให้หมอตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้ได้ข้อยุติทางวิชาการ ที่ชัดเจนเพราะถ้าอาการเกร็งไม่ได้เกิดจากการเมาสุราอาจเข้าข่าย fake news  ได้การแถลงของเจ้าหน้าที่ควรมีหลักฐานโดยประจักษ์ยืนยัน
2. การนำตัวชายคนดังกล่าวไปพักที่จุดปลอดภัยใต้สะพานนั้นควรทำหรือไม่ เจ้าหน้าที่ควรพิจารณานำส่งรพ.เพื่อตรวจหาสาเหตุในกรณีที่สังคมตั้งคำถามทันที และอาจเป็นการป้องกันอันตรายที่ใกล้จะถึงให้กับชายคนดังกล่าว เพราะชายคนนั้นอาจเป็นโรคอื่นถึงชักเกร็ง และใต้สะพานก็ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย ถ้าชายดังกล่าวเกิดเสียชีวิตขึ้นภายหลังเพราะสาเหตุใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็อาจไม่พ้นความรับผิดและถูกตั้งข้อสงสัยถึงการปฏิบัติหน้าที่ได้
            การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในเวลาวิกฤตจึงควรทำด้วยความอดกลั้น เป็นหัวอกเดียวกันกับประชาชน และพิจารณาข้อเท็จจริงองค์ประกอบของฐานความผิดให้ชัดเจนก่อนดำเนินคดีกับประชาชน ผู้ที่ขาดเจตนาไม่ควรถูกตั้งข้อหา เพราะต้องใช้เงินประกันหลักแสนในคดีโพสต์เฟสบุ๊คโดยใช้ภาพจริงไม่ได้จัดฉาก ถึงจะหลุดคดีในชั้นศาลแต่ก็ต้องเสียเวลา เสียเงินไปอย่างไม่ควร การใช้อำนาจรัฐให้ใช้กับผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดี และสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง ไม่มองประชาชนเป็นศัตรู การโพสต์รูป วีดีโอของชายดังกล่าวถ้าถ้อยคำที่ใช้ไม่ได้ระบุสิ่งที่เป็นเท็จย่อมไม่ผิด เพราะไม่ใช่การจัดฉาก ในวันที่ประเทศมีจำนวนผู้เสียชีวิตขึ้นเป็นอันดับ 7 ในเอเชียขอให้ตำรวจไทยทำเรื่องใหญ่และได้ประโยชน์มากกว่าในการช่วยเหลือประชาชน ให้เข้าทำงานเชิงรุก ช่วยแจกยา เก็บศพ ทำรพ.สนามจะได้ใจประชาชน โดยแถลงสรุปผลการปฏิบัติงาน กำลังพล ยานพาหนะขนส่งผู้ป่วยที่ใช้ในแต่ละวันเป็นตัวเลข เป็นสิ่งที่ดีในสภาวะที่ประชาชนไม่มีกิน เห็นภาพน่าสลดในทุกวัน และไม่มีเงินเดือน ประชาชนไม่ใช่ศัตรู ประชาชนรักในตำรวจที่มีเมตตาและศีลธรรม

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/