ประจวบคีรีขันธ์-ตื่นตัวพร้อมรับผลกระทบเคอร์ฟิว หวังรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด

ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงศ์ประเสริฐบุรี 

                   แม่ค้าประจวบตื่นตัวพร้อมรับผลกระทบเคอร์ฟิว หวังรัฐบาลแก้ปัญหาโควิดจบโดยเร็ว ยอมเจ็บแต่จบ

            เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 3 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ การจำหน่ายอาหารประเภทของกิน ของกินเล่น ของพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอยู่บริเวณตลาดโต้รุ่ง ลานหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เขตเทศบาลอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจำหน่ายอาหารประเภทอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ขนมจีน กระเพาะปลา น้ำเต้าหู้อาหารทะเล และผลไม้ รวมถึงของกินเล่นต่างๆ โดยพบว่าบรรยากาศวันนี้มีพ่อค้าแม่ค้ามาจำหน่ายอาหารไม่คึกคัก มีจำนวนร้านค้าลดจำนวนน้อยลงไปมาก โดยร้านค้าบางส่วนหยุดปิดกิจการไปเลยไม่ได้มาขาย และยังมีอีกหลายร้านที่ยังมาขายตามปกติแต่ลดจำนวนสินค้าลงเนื่องจากต้องเก็บร้านเร็วขึ้น โดยทางหน่วยงานราชการในพื้นที่ได้ออกมาประชาสัมพันธ์บอกชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าให้รีบเก็บร้านตั้งแต่ 19:30 น. เพื่อให้สามารถกลับเข้าบ้านได้ทันเวลาก่อน 21:00 น.และห้ามไม่ให้มีการนั่งกินโดยให้ซื้อห่อใส่ถุงกลับบ้าน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าก็ยินดีที่จะปฏิบัติตาม โดยหวังให้รัฐบาลแก้ปัญหาโรคระบาด covid-19 จบลงได้โดยเร็ว

              นางสุวิมล จิตรการฤดี อายุ 53 ปี แม่ค้ากระเพาะปลาตลาดโต้รุ่งหน้าอำเภอ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดโรคระบาด โควิด 19 ตนเองได้รับผลกระทบเยอะ มีรายได้น้อยลง เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยออกมานอกบ้านเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งวันนี้มีเคอร์ฟิววันแรก ตนเองยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าไม่กล้าออกจากบ้าน ซึ่งดูบางตาลงไปมาก และตนเองก็ต้องเก็บร้านเร็วขึ้น ซึ่งแม่ค้าทุกคนจะต้องเก็บร้านตั้งแต่ 19:30 น.ทำให้มีระยะเวลาในการขายสินค้าน้อยลง ทำให้มีรายได้ลดลงไปมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ขาย ยังทำให้มีรายได้บ้าง ซึ่งตนเองก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการ โรคโควิดจะได้หมดไปซะที โดยไม่ให้ลูกค้านั่งกิน แต่จะจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างไว้ให้ลูกค้านั่งรอแทน ซึ่งลูกค้าบางคนก็เข้าใจและยืนรอ และเมื่อได้สินค้าอาหารแล้วก็รีบกลับบ้านเลย ตนเองจึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยาช่วยเหลือบ้าง

              นางอุมาพร นกเล็ก อายุ 48 ปี แม่ค้าน้ำเต้าหู้ตลาดโต้รุ่ง เปิดเผยว่า หลังจากตนเองทราบข่าวว่าจะมีประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 21:00 น.ถึง 04:00 น.และทางหน่วยงานราชการมาบอกให้เริ่มเก็บร้านตั้งแต่ 19:30 น.ตนเองก็ลดปริมาณสินค้าที่จะมาจำหน่ายน้อยลงจะได้ไม่เหลือทิ้งเสีย ซึ่งตนเองก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีเวลาในการจำหน่ายสินค้าน้อยลงเช่นกัน โดยที่บริเวณตลาดโต้รุ่งจะเริ่มขายได้ ตั้งแต่ 17:00 น.ถึง 21:30 น. ลูกค้าก็หมดแล้ว ซึ่งตนเองต้องเตรียมเก็บร้าน ตั้งแต่ 19:30 น. โดยมีเวลาขายน้ำเต้าหู้ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น เวลามันสั้น ตนเองมีภาระรายจ่ายมากกว่ารายรับ และขณะนี้ลูกเรียนหนังสืออยู่กรุงเทพฯต้องเสียค่าเช่าหอเดือนละ 6,000 บาท ตนเองได้รับผลกระทบ แต่ก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อให้โควิดหมดไปโดยเร็ว ซึ่งตนเองไม่หวังเงินเยียวยารัฐบาลหวังเพียงรัฐบาลแก้ปัญหาได้โดยเร็ว และกลับมาขายสินค้าได้ตามปกติ มีรายได้เป็นของตัวเองดีกว่าเงินเยียวยาจากรัฐบาล ซึ่งไม่เพียงพอต่อรายจ่ายประจำเดือน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/