สระบุรี-สองสามีภรรยา ลาออกจากโรงงาน ผันชีวิตมาปลูกกระชายขาวขายในช่วงโควิด19
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
สองสามีภรรยา ลาออกจากโรงงาน ผันชีวิตมาปลูกกระชายขาวขายในช่วงโควิด19 สร้างรายได้เป็นกรอบเป็นกำให้กับครอบครัว ส่งลูกเรียนได้
วันที่ 6 ส.ค.64. จากสถานการณ์ ‘’โควิด’’ ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้มีชาวบ้านประชาชนติดเชื้อไวรัสดังกล่าว เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดสระบุรี และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้มีการแสวงหายาสมุนไพรโบราณ มากินป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19 ที่มีวิธีรับประทานหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกระชายขาว ที่ประชาชนต่างนิยมรับประทานกัน เช่น นำกระชายมาปั่นผสมกับน้ำผึ้งและมะนาว และยังนำไปทำอื่นๆได้อีกหลายอย่าง แต่ขณะนี้กระชายขาวตามตลาดยังขาดแคลน ได้มีประชาชนมาหาซื้อกันอย่างมากหลาย จึงทำให้2สามีภรรยา ที่ลาออกจากโรงงานงานหันมาปลูกระชายขาว ,มะเขือ,มะเขือเทศ,ดอกแค,ขิง ในเนื้อที่ 10 ไร่ แต่เน้นปลูกกระชายขาวมากที่สุด และส่งขายตามตลาด เช่น ใน อ.แก่งคอย ,อ.เมืองสระบุรี และจังหวัดใกล้เคียง จนไม่มีกระชายเหลือเก็บไว้ภายในไร่เลย ทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวเป็นกรอบเป็นกำ สามารถส่งลูกเล่าเรียนได้อีก
วันนี้ผู้สื่อข่าวทราบข่าวดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่ไปยังไร่ของ 2 สามีภรรยา ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ถนนสาย บ้านธาตุ-แก่งคอย ต. บ้านธาตุ อ. แก่งคอย จ.สระบุรี พบ นาง พิจิตร นันทศาล อายุ 48 ปี และ นายขัยวัฒน์ นันทศาล อายุ 50 ปี 2สามีภรรยา และคนงาน กำลังถางไดหญ้าและปลูกกระชายขาว โดยปักกระชายลงหน้าดิน ในพื้นที่ 10ไร่พื้นที่ มีการเดินสายน้ำรดวาไว้เป็นแถวยาว จึงได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูภายในไร่และบอกวิธีการปลูก ก่อนปลูกนั้นได้ทำการ ซื้อเหง้าหรือไหล มาจากชาวบ้านที่ปลูกอีกทีหนึ่ง จากนั้นก็ทำการปลูกในดินที่เตรียมไว้ จนโตได้ที่ ก็ขุดแยกต้นกล้าออกมาปลูกในที่ ขุดยกหน้าดินที่เตรียมไว้เป็นแถวๆ โดยเอาต้น ทำการปักลงดิน โดย ต้นกระชายขาว จะใช้เวลาในการปลูกดูแล 5-6 เดือนก็โต จนสามารถขุดหน่อไปขายได้ ส่วนต้นมันก็ยังสารมารถแยกมาปลูกใหม่ได้อีก และตอนนี้ส่งขายกิโลละ 130-140 บาท ทำรายได้ให้ครอบครัวได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ เสมือนเป็นการช่วยคนไทยด้วยกันได้อีกเพื่อเป็นการรักษาโรคโควิด19
นาง พิจิตร นันทศาล (เจ้าของสวน) เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนลูกชายเรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิค ตนทำงานโรงงานแต่เงินเดือนไม่พอใช้ เลยปรึกษากับแฟนว่า เราออกมาหาเช่าที่ปลูกกระชายกันดีมั้ย ก็เลยตกลงเช่าที่ตรงนี้กัน ตนทำที่นี่มาประมาณ 2 ปีแล้ว รายได้โอเคไม่มีปัญหา ทั้งปลูกและรับซื้อด้วย มีขายทั้งราคาส่งและราคาปลีก จะนำส่งที่ตลาดล้งและต่างจังหวัดด้วย ช่วงนี้ราคาส่งกิโลละ 140 บาท รายได้ดีกว่าทุกปี เพราะตั้งแต่อยู่มายังไม่เคยเจอ พึ่งจะมาเจอก็ตอนนี้แหละที่ได้ราคาดีมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนขายส่งแค่กิโลละ 40-50 บาทเท่านั้น เราจะเก็บปีละ 1 ครั้ง ถ้าเราปลูกตอนไหนก็ได้ตอนนั้น แต่ถ้าหมดก็หมดไปเรื่อยๆ และก็มีทุกไร่ที่เรารับซื้อด้วย การปลูกมีมูลสัตว์ขี้วัวให้มันเป็นปุ๋ยทำให้ดินร่วนซึมลงหัวง่าย และจะได้หัวที่สวย ส่วนกระชายเราจะรับซื้อแค่ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งจะมีไหลและห่อของต้นมัน พอไหลเสียบลงไปปีหน้ามันก็ขึ้นต้นใหม่แล้วก็ใช้ได้อีก โดยที่เราไม่ต้องซื้อ ลงทุนแค่ครั้งเดียว ส่วนในพื้นที่ 10 ไร่นี้ มีปลูกอย่างอื่นด้วย เช่น มะเขือ มะเขือเทศ ดอกแค ขิง ซึ่งทุกอย่างที่ปลูกขายได้หมด
ส่วนกระชายบ้านธาตุเป็นต้นตำหรับของคนแก่คนเฒ่าสมัยโบราณ ซึ่งรถชาติมันจะดีกว่าที่อื่น กลิ่นมันจะฉุน ถ้านำไปทำกับข้าวรสชาติจะอร่อยกว่าที่อื่น ยืนยันเลยเรื่องรสชาติ กระชายเหมือนกันก็จริง แต่ถ้าเป็นกระชายทางเขตนครปฐม จะคนละพันธุ์กัน เพราะจะมีลักษณะยาว และกลิ่นก็จะไม่เหมือนกัน ซึ่งของเราดีกว่าเพราะเป็นกระชายขาวด้วยแต่หัวสั้น ส่วนมากคนนิยมจะซื้อ เขตสระบุรีและเขตลพบุรี จะใช้พวกนี้ตลอด และยังมีคนที่ปลูกกระชายเหมือนเราอีกเยอะ แต่ช่วงนี้กระชายจะขาดเป็นเรื่องธรรมดา เพราะกระชายเริ่มลงหัวก็จะไม่ถูกกัน มันจะเสียโอกาส เราจะรู้ได้ว่ากระชายเป็นตัวหรือยัง เพราะกระชายมันจะมีอายุของมัน พอถึงเดือนตุลาคม ก็จะเริ่มเป็นฤดูเก็บเกี่ยวตลอดไปจนถึงเดือนพฤษภาคมจะเริ่มหมด แต่ถ้าเรายังไม่ขุดมันก็จะยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งที่เรามีใช้เป็นกระชาย 2 ปี แต่ถ้าเราขุดหมดแล้วก็คือจบ ไปออกปีหน้าจนกว่ามันจะขึ้นจนแก่ มันจะถึงที่เราไม่ได้ขายอยู่ประมาณ 1-2 เดือน แค่นั้น เดี๋ยวมันก็ขึ้นอีก โดยที่เราไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติม ใช้แค่หน่อกับไหลปลูกซ้ำได้อีก
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/