เชียงใหม่-พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 52 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีผลการตรวจมาจากต่างจังหวัด
ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
ขอบคุณข้อมูล:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 52 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีผลการตรวจมาจากต่างจังหวัด ขณะที่คลัสเตอร์น้ำพุร้อนสันกำแพง ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง แจ้งผู้ใช้บริการสถานที่ดังกล่าวสังเกตอาการตัวเอง หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันที
วันนี้ (10 ส.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 52 ราย โดยเมื่อวานนี้ (9 ส.ค. 64) ได้มีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัสหรือผู้เสี่ยงสูง จำนวน 2,713 ราย พบผู้มีผลบวก 46 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.70 ที่เหลือเป็นผู้ที่มีผลการตรวจมาจากต่างจังหวัด ด้านปัจจัยเสี่ยงพบเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสในต่างจังหวัดหรือนำเข้าในสัดส่วนที่สูง ส่วนปัจจัยอื่นๆ ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ภาพรวมของการติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว เพิ่มเป็น 23.8 % และการสัมผัสจากต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 14.7 %
การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงของคนงานเก็บลำไย เมื่อวานนี้ตรวจที่อำเภอแม่แตง 22 ราย และอำเภอดอยเต่า 171 ราย พบผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนการตรวจเชิงรุกในกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัด ที่สถานีรถไฟ ตรวจไป 35 ราย สถานีขนส่งอาเขต 14 ราย รถยนต์ส่วนตัว 35 ราย ทั้งหมดมีผลเป็นลบ ส่วนการตรวจคนขับรถบรรทุกและผู้ติดตาม จำนวน 88 ราย พบผู้มีผลบวก 1 ราย ผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ที่น้ำพุร้อนสันกำแพง ตรวจไป 313 ราย พบผลบวก 5 ราย ฟาร์มไก่ RPM และบริษัท KOKORO ตรวจไปทั้งหมด 68 ราย พบผลบวกที่ ฟาร์มไก่ RPM 1 ราย
สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้ง 52 ราย พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 38 ราย โดยเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร 24 ราย สงขลา 3 ราย นครปฐม 2 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ลพบุรี 2 ราย สมุทรสาคร นนทบุรี ชลบุรี ชุมพร สระบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดยยอดรวมผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าเชียงใหม่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พบทั้งหมด 295 ราย พบมากที่สุดคือกรุงเทพฯ 149 ราย รองลงมาคือปทุมธานี 42 ราย ชลบุรี 17 ราย สมุทรปราการและสมุทรสาคร 15 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อในจังหวัด วันนี้ พบเพียง 14 ราย จากคลัสเตอร์น้ำพุร้อนสันกำแพง 5 ราย คลัสเตอร์ฟาร์มไก่ อำเภอหางดง 3 ราย คลัสเตอร์ตลาดอำเภอสันทรายกระจายต่อไปยังอำเภอแม่แตงอีก 1 ราย ครอบครัวช้างคลาน 1 ราย สัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 1 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 3 รายโดยมี 3 คลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง คือ คลัสเตอร์น้ำพุร้อนสันกำแพง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เป็นผู้สัมผัสที่อ่างเก็บน้ำห้วยบก 1 ราย ผู้สัมผัสในครอบครัว 2 ราย และผู้สัมผัสในชุมชน หมู่ 3 ตำบลบ้านสหกรณ์ อีก 2 ราย รวมสะสมคลัสเตอร์นี้ 32 ราย คลัสเตอร์ ฟาร์มไก่ RPM อำเภอหางดง พบจากการตรวจเชิงรุกและการตรวจที่โรงพยาบาล 3 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 191 ราย โดยผู้ติดเชื้อ 1 ราย ทำงานแผนกไข่ไก่ อีก 2 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงตรวจพบระหว่างการกักตัว จึงไม่มีผู้สัมผัสเพิ่ม โดยเมื่อวานนี้ได้ตรวจภูมิคุ้มกันในพนักงานที่มีผลตรวจเป็นลบ 120 ราย พบผู้มีภูมิคุ้มกันเพียง 1 ราย และในวันพรุ่งนี้จะได้ทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง และคลัสเตอร์ตลาดในอำเภอสันทราย แพร่กระจายไปยัง ตำบลบ้านช้าง อำเภอแม่แตง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับ CM5713 ที่อำเภอแม่แตง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของคลัสเตอร์นี้ 12 ราย
ด้านข้อมูลการฉีดวัคซีน ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 309,212 ราย คิดเป็นร้อยละ 26 ของกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้เข้าฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงสูงอีกครั้ง ทางศูนย์บริหารการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ จะได้จัดแคมเปญเพื่อให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ เบื้องต้นจะเป็นการจัดหน่วยฉีดวัคซีนเชิงรุกในชุมชน เขตเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อฉีดให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และแคมเปญพิเศษ “ความกตัญญู ฮักพ่อ ฮักแม่ พาไปฉีดวัคซีน” การฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค แบบมีผู้พามาฉีดและจะได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มหนึ่งคนต่อหนึ่งครอบครัว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการและจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป ส่วนการฉีดวัคซีน Pfizer ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรมาเพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขตามนโยบายของภาครัฐ ขณะนี้ได้เริ่มทยอยฉีดแล้ว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/