อุบลราชธานี-ผู้ป่วยโควิด เสียชีวิตอีก 2 ราย รองพ่อเมือง แจงการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวส์
ภาพ/ข่าว:กิตติภณ
ผู้ป่วยโควิดที่อุบลฯ เสียชีวิตอีก 2 ราย รองพ่อเมือง แจงการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวส์
วันนี้ ( 14 ส.ค. 64 ) นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้แถลงข่าวสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 303 ราย (ลดลง) ติดเชื้อในพื้นที่จ.อุบลฯ 41 ราย (ลดลง) ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 262 ราย (ลดลง) ผู้ป่วยสะสม 10,991 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 227 ราย (+2) เสียชีวิตสะสม 49 ราย (+2) รักษาหาย 3,784 ราย (+294) กำลังรักษา 7,158 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 22 ราย นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวถึงเรื่อง เตรียมประกาศเคอร์ฟิว ว่า ก็มีการสอบถามกันเข้ามามาก ขอชี้แจงว่า จากการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 31/2564 เมื่อ 13 สิงหาคม 2564 มติที่ประชุมเห็นชอบ เตรียมประกาศเคอร์ฟิว 2 อำเภอ มีอำเภอเมือง(บางส่วน) และอำเภอวารินชำราบ(บางส่วน) ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อยกระดับมาตรการ การควบคุมและมาตราการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ไปแล้วนั้น ต่อมาสื่อมวลชนได้เสนอข่าวดังกล่าว ประชาชนก็อยากรู้ถึงรายละเอียดต่างๆในการฏิบัติตน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ เราต้องหารือ ศบค.ก่อน ถ้าศบค.เห็นชอบ ทางจังหวัดก็จะออกเป็นคำสั่ง และ ออกประกาศให้ประชาชนได้รับทราบถึงรายละเอียด แต่ขณะนี้ เรื่องดังกล่าวนี้ ยังอยู่ในขั้นตอน หารือกับ ศบค. ยังไม่เป็นคำสั่ง ออกมา ขอแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับทราบในเบื้องต้น ตามนี้ไปก่อน รับรองไม่ใช่การล็อกดาวน์ หรือ เคอร์ฟิว เพียงแต่จะยกมาตรการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น เท่านั้น รอฟังคำสั่งจากจังหวัดอีกทีแล้วกัน ที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปแล้วนั้น เป็นมติที่ประชุม ซึ่งสื่อฯ ก็บอกอยู่ว่า รอประกาศของทางจังหวัด แต่ประชาชนส่วนใหญ่สับสนกัน
ช่วงนี้ เขตเทศบาลนครอุบลฯ และ เขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ผู้ป่วยโควิด มีการแพร่ระบาดภายในสูง จึงต้องเพิ่มมาตรการเพิ่มขึ้น เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ต้องขอความเห็นกับ ศบค. พื้นที่สีแดงเข้ม ต้องมีการยกระดับ เช่น ยกระดับร้านอาหาร จากขายถึง 5 ทุ่ม ก็ลดลงมาถึงแค่ 3 ทุ่ม นั่งกินได้ แต่เว้นระยะห่าง ร้านมีอากาศถ่ายเท คือเราจะเข้มขึ้นเป็นบางพื้นที่ ตามต่างอำเภอ ก็ขอให้ระมัดระวังกันด้วย หากประมาท การ์ดตก ก็เป็นเรื่องได้ เช่น ที่อ.เดชอุดม มีผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในร้านค้า แล้วมีคนไปซื้อของ ก็เลยติด ส่วนคลัสเตอร์ ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลฯ ตอนนี้ มี 14 ราย ก็เกิดจาก มีคนมาจากต่างจังหวัด มากักตัวในครอบครัวตนเอง เลยมีการแพร่ระบาดภายในครอบครัวตนเอง ส่วนในเขตเทศบาลนครอุบลฯ ก็ยังระวังคลัสเตอร์ต่างๆ เช่น ชุมชนบุ่งกาแซว เริ่มดีขึ้น โต๊ะสนุกเกอร์ยังมีแพร่ระบาดต่อ ร้านอาหาร การแพร่ระบาดลดลง กลุ่มธนาคาร มาจากกลุ่มสนุกเกอร์มาใช้บริการที่ธนาคาร ตอนนี้เขาเปลี่ยน จนท.ธนาคารใหม่ ทั้งหมด ก็ไม่มีเพิ่มขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี ถ้ามีกลุ่มเสี่ยงเข้าออกชุมชน หรือมากักตัวในชุมชน ก็ขอให้ช่วยกันเฝ้าระวัง มีการคัดกรองคน หากมีอาการหรือป่วยต้องตรวจ
ส่วนที่มีผู้เป็นห่วงว่า ร้านเสริมสวยมีโอกาสเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ นั้น ถ้าปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแล้วคงไม่เป็นไร เช่น ไม่ให้มีการรอคิวภายในร้าน ให้รอคิวข้างนอก ก็คงจะช่วยลดการพร่ระบาดเชื้อโควิดได้ พี่น้องประชาชนก็อย่าวิตกกังวลมากไป วันนี้ดูตัวเลขจะพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อลดลง ผู้มาจาก กทม. ก็ลดลงมากเหลือวันละ 100 -200 คน เท่านั้น ส่วนที่ยังมีคนร้องเรียนว่า ปล่อยให้ร้านอาหารนั่งดื่ม และ เปิดเกินเวลา จะดำเนินคดียังไง ก็คงต้องให้จนท.ฝ่ายปกครองกับตำรวจ กวดขันเข้มข้น ซึ่งเวลา ตร. และ ปกครอง ออกตรวจ เขาก็ปิดร้านนะ แต่พนักงาน กินกันในร้าน หลังเลิกงาน ในส่วนการดำเนินคดี ดื่มสุราในร้าน มอบให้ นอภ.เมืองอุบลฯ และ จนท.ตำรวจ ดำเนินการให้เด็ดขาด ก็ขอบอกกับพี่น้องประชาชนอีกอย่างหนึ่งว่า ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เราทำงานกันอย่างหนักต่อเนื่องมาเกือบ 5 เดือนแล้ว บางสิ่งบางอย่าง บางมาตรการ บางทีมีคนเห็นด้วย บางทีไม่เห็นด้วย การทำงานอาจจะไม่ถูกใจทุกท่านไปทั้งหมด ก็ต้องขออภัยด้วย นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว รองผวจ.อุบลฯ กล่าว.
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/