ปราจีนบุรี – ช้างป่าอ่างฤไน20ตัวเดินลงเขารอกลับบ้าน
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
ช้างป่าอ่างฤไน20ตัวเดินลงเขารอกลับบ้าน
ข่าวคืบหน้าโป่งช้างป่าเขาอ่างฤาไนยกสูงมาหากินที่บ้านหว้าเอน ม.8ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 17 สค.ที่ผ่านมาผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจัดชุดเฝ้าระวังติดตามแกะรอยช้างป่าในพื้นที่จนทราบว่าช้างป่าที่พบเห็นครั้งแรก1ตัวและช่วงสายในวันเดียวกันได้รับแจ้งว่าพบเห็นฝูงช้างอยู่บนสันเขาหว้าเอนจำนวน10ตัว ผู้ใหญ่บ้านจึงจัดชุดเฝ้าระวังคอยสังเกตการณ์และติดตามดูความเคลื่อนไหวของช้างอย่างใกล้ชิดเพื่อรอการผลักดันของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์เขาอ่างฤาไนช่วงเย็นจากการสอบถามชาวบ้านเพิ่มเติมทราบว่ามีคนพบเห็นช้างอยู่ในหมู่บ้านหว้าเอนครั้งแรกตัวแรกเมื่อเวลา20.00น.
ยายซ่อนกลิ่น ปัญญา ชาวบ้านหว้าเอนกล่าวว่าลูกสาวกลับจากทำงานได้ยินเสียงหมาเห่าที่หน้าบ้านบริเวณป่าข้าวโพดจึงส่องไฟดูทันทีทีที่รู้ว่าเป็นช้างไม่ได้ตกใจกลัวอะไรเพราะเคยเห็นบ่อยครั้งไม่เคยทำร้ายอะไรแค่มากินต้นกล้วยต้นมะพร้าวข้างบ้านแล้วก็ไป ช้างตัวที่เห็นตัวใหญ่มากไม่รู้ว่าเป็นช้างตัวผู้หรือตัวเมียหลังจากที่กินต้นกล้วยกินต้นมะพร้าวเสร็จแล้วก็เดินจากไปในความมืด ช่วงสายที่ผ่านมามีคนพบเห็นฝูงช้างป่าจำนวน 10 ตัวอยู่เชิงเขาว่าเอนผู้ใหญ่จึงได้จัดชุดเฝ้าระวังดูความเคลื่อนไหวช้างอยู่ตลอดเวลา เวลา12.00น.ขณะที่ผู้สื่อข่าวจอดรถเฝ้าสังเกตการณ์บนถนนเงียบๆบนสันเขาได้ยินเสียงช้างร้องและหักต้นไม้เสียงดังโครมคราม จากนั้นเสียงดังโครมๆของฝูงช้างดังขึ้นแล้วช้างก็เดินชักแถวออกจากป่าให้เห็นอย่างเป็นฝูงช้างป่าไม่ต่ำกว่า20ตัวมีทั้งตัวตัวเล็กและตัวใหญ่เดินลงจากเขาอย่างช้าๆเดินลับสายตาหายไปในป่าไม้ขณะนี้พุงช้างป่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ชายปลาทึบติดกับวัดหว้าเอนซึ่งห่างจากจุดที่เดินลงเขา300เมตร
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการผลักดันฝูงช้างป่าจำนวน 20 ตัวข้ามถนนสาย 315 ก้าวเข้าสู่เขตอำเภอสนามชัยจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่เรียบร้อย คณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และชาวบ้านกำลังจะแยกย้ายกันกลับปรากฏว่าพบเห็นฝูงช้างหลงฝูงอีก7-8 ตัวเรียกสูงออกหากินอยู่บริเวณเทือกเขาว่าเอนจึงกระจายกำลังต้อนฝูงช้างป่าเพื่อให้กลับถิ่นฐานเดิมตำพุงใหญ่กลับไป โดยใช้เวลาจุ ดประทัดไล่ประมาณ 10 นาทีฝูงช้างฝูงสุดท้ายได้มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศตะวันออกและข้ามถนนกลับเข้าเขตสนามชัยเขตตามพุงใหญ่ไปอีกชุดหนึ่ง
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/