ปราจีนบุรี-พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จำนวน 202 ราย
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จำนวน 202 ราย สะสมรวม จำนวน 6,620 ราย พบกลุ่มคลัสเตอร์จากหนุ่ม-สาว “ฉันทนา” โรงงานอุตสาหกรรม ไซต์งานก่อสร้างท่าตูม ห้างสรรพสินค้าเอกภาพ ไปรษณีย์อำเภอนาดี ตลาดกองไทยตลาดกองไทย
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ 21 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงายว่า นายโชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีประกาศ จากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดปราจีนบุรี แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ระลอกใหม่ เมษายน 2564 แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ เมษายน 2564 จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 21 สิงหาคม 2564 จังหวัดปราจีนบุรีขอแจ้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ จำนวน 202 ราย เป็นผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 5,897 ราย ติดเชื้อนอกพื้นที่เข้ามารักษา 719 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 รายติดเชื้อในเรือนจำ 3 ราย ทำให้จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้ป่วยสะสม (ระลอกเมษายน 2564) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 21 สิงหาคม 2564 จำนวน 6.,620 ราย ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงได้ติดตามตรวจหาเชื้อแล้ว
จังหวัดปราจีนบุรี ขอแจ้งประชาสัมพันธ์สถานที่เสี่ยงของผู้ติดเชื้อ สำหรับสถานที่เสี่ยงทุกแห่งที่ปรากฎใน Timeline ของผู้ป่วยทุกคน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าพนักงานควบคุมโรค ได้ให้คำแนะนำแก่ หน่วยงาน ร้านค้า สถานประกอบการ ในการทำความสะอาดสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมปฏิบัติตามมาตรการในการควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019อย่างเคร่งครัด หากผู้ใดสงสัยว่าสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือไปสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อCOVID-19 ขอให้สังเกตอาการตนเอง หากท่านหรือผู้ใกล้ชิดท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอมีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ขอให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าหน้าที่ รพ.สต. หรือ ไปโรงพยาบาลใกล้บ้านพร้อมทั้งแจ้งประวัติเสี่ยง
ทั้งนี้ คลัสเตอร์ผู้ป่วยนอกจังหวัดเข้ามารับการตรวจและรักษา จำนวน 14 ราย คลัสเตอร์บริษัท ยูโรเป็ยนฟู้ด จำกัด จำนวน 16 ราย คลัสเตอร์โรงหลอมโลหะ ต.กรอกสมบูรณ์ จำนวน 6 ราย คลัสเตอร์บริษัท เมโทร อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด จำนวน 1 ราย เชื่อมโยงผู้ป่วยยืนยันคลัสเตอร์ตลาดกองไทย จำนวน 4 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์เอกภาพ ซุปเปอร์ ปราจีนบุรี จำนวน 9 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์ไซก่อสร้างท่าตูม จำนวน 17 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท LETA Stone จำนวน 3 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท แอดแวนเทจพุตแวร์ จำนวน จำนวน 5 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท พูจิคูระ จำนวน 7 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท ไฮเออร์ จำนวน 1 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์ไปรษณีย์อำเภอนาดี จำนวน 10 ราย เชื่อมโยงคลัสเตอร์บริษัท เมโทร อินตัสเทรียล ปาร์ค จำนวน 1 ราย สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันร้านล้างรถ ฟองโฟม จำนวน 8 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก บริษัทสรุพลฯ อ.กบินทร์บุรี จำนวน 3 ราย ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า จำนวน 62 ราย บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 2 ราย ผู้ที่มีประวัติการเดินทางไป-กลับ มาจากพื้นที่เสี่ยง จำนวน 3 ราย ผู้ป่วยมีอาการตามเกณฑ์, ตรวจ ATK ผล Positive และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค จำนวน 30 ราย โดยการกระจายตัวผู้ป่วย พบนอกจังหวัดจำนวน 8 ราย อ. เมืองปราจีนบุรี จำนวน 36 ราย อ. กบินทร์บุรี จำนวน 31 ราย อ.นาดีจำนวน 30 ราย อ.บ้านสร้างจำนวน 1 ราย อ. ประจันตคามจำนวน 7 ราย อ.ศรีมหาโพธิ ย่านนิคมอุตสาหกรรมพบสูงสุด จำนวน 84 ราย อ. ศรีมโหสถจำนวน 5 ราย
นายวรพันธุ์ สุวัณณุสณ์ ผวจ.ปราจีนบุรี ได้ออกประกาศ จ.ปราจีนบุรี อ้างอิง คำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 2638/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่หมู่บ้าน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
1.ให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น 28 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง ต้องแจ้งการเข้ามากับผู้ใหญ่บ้านในท้องที่นั้น ๆ ทันที และในระหว่างรอการเรียกตัวไปเข้ารับการสอบสวนโรค ให้อยู่เฉพาะที่พักของตนเอง ห้ามพบปะกับบุคคลอื่น และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด2. ผู้ใหญ่บ้านแจ้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทันที ในช่องทางการสื่อสารที่สามารถติดต่อได้ เมื่อได้รับแจ้งการเข้ามาในหมู่บ้านของบุคคล ตามข้อ 13. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สอบสวนโรคและพิจารณาการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใช้ชุดทดสอบ Antigen Test Kit และให้ผู้ที่เดินทาง เข้ามาในหมู่บ้านปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558) หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 18 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
จากการแพร่ระบาดและ จ.ปราจีนบุรีเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ควบคุมสูงสุด พบว่า ผู้ปกครองต่างพากันประหยัดรายจ่ายต่าง ๆ อาทิ น.ส.สุวินตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวบ้านโคกมะกอก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า มีบุตรชาย 2คน ช่วงโควิด-19 นี้ในการเป็นพื้นที่ล็อคดาว ร้านตัดผมปิด ประกอบกับต้องประหยัดรายจ่าย เนื่องจากไม่มีรายได้ ได้ซื้อแบตเตอร์เลี่ยนตัดผม และเรียนรู้วิธีการตัดผมจากช่องยูทูป ตนเอง -สามีได้ช่วยกันนำมาประยุกต์ใช้ตัดผมให้ลูกชายทั้ง 2 คน ส่วนบุตรชายทั้ง 2 คน (ม.1 – ป.3) ก็เรียนทางไกล-ออนไลน์ วันละ 3- 4 ชม./วิชา โดยตนเองคอยกำกับ-แนะนำร่วมกับทางคุณครู ที่สอน หากไม่ดูแลใกล้ชิด เด็ก ๆ จะไม่ได้ความรู้ เท่าที่ควร เช่น เล่นเกม ซุกซนขาดสมาธิ
ขณะที่พบสถานศึกษาทุกสังกัด ยังปิดตามมาตรการ การล็อคดาว ยังไม่มีกำหนดการเปิดเรียนใด ๆ พบว่าครูหลายโรงเรียนนำ นม ใบงาน หนังสือเรียน นัดหมายแจกจ่ายให้ผู้ปกครอง โดยเน้นผลิตสื่อการสอนผ่านออนไลน์
ด้านครูนิดหน่อย (ขอสงวนชื่อ –นามสกุล) กล่าวว่า “ในมาตรการ เรียนออนไลน์ทั้ง ผ่านDLTV. หรือ ทางโรงเรียนจัดการสอนออนไลน์เองสู่นักเรียน นั้น พบนักเรียนเข้าชั่วโมงเรียนน้อยมากในสัดส่วนของจำนวนนักเรียนโดยรวม ปัญหามาจาก การขาดระเบียบวินัย ในการเรียนรู้พึ่งพาตนเอง ครอบครัวขาดสื่อ-อุปกรณืการเรียนด้านอิเลคทรอนิคส์ อาทิ มือถือ โน้ตบุ๊ค สัญญาณทีวี ทางออกนอกจากรัฐบาลจะเยียวยาเงินให้แล้ว ควรจัดเงินงบประมาณในด้าน การจัดซื้อสื่ออุปกรณ์ ทางการเรียนออนไลน์ให้พร้อมจะดีกว่า อาทิ มือถือ ไอแพ็ต เป็นต้น
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/