ลพบุรี-ใจดีสู้เสือชวนเพื่อนไปดูผีวิ่งหนีกันกระเจิง

ภาพ/ข่าว:กฤษณ์ สนใจ

ใจดีสู้เสือชวนเพื่อนไปดูผีวิ่งหนีกันกระเจิง

                  วันที่ 23 ส.ค. 2564 ร.ต.อ.ธีระพงศ์ เตชะนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนนอนตายที่กระท่อมกลางทุ่งนา หมู่ที่ 8 ต.โคกสำโรง จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.โคกสำโรง และสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ รุดเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

                  ที่เกิดเหตุกระท่อมกลางทุ่งนาใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร พบร่างนายบุญมี พรหมรักษา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 6 ต.ถลุงเหล็ก อ.โคกสำโรง ลพบุรี นอนหงาย มือสองข้างพาดหน้าอก โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ หนุนหมอน มีมุ้งกางอยู่ ผ้าห่มสีแดงกองอยู่ปลายเท้า กระเป๋าสีน้ำตาลวางใกล้ศพ สภาพศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเน่าเหม็นตลบอบอวนไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นไม่พบบาดแผล ร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน
                จากการสอบสวนนายสุพล อายุ 29 ปี ชาวบ้านผู้ที่พบศพเล่าว่าเมื่อคืนวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้ออกไปหาหนู หาเขียด พบผู้ตายนอนอยู่ในลักษณะนี้ ตนเองยังได้ร้องตะโกนทักแต่ไม่ตอบ ซึ่งคิดว่าคงจะนอนหลับ ซึ่งคืนนี้ตนเองก็ได้ออกไปหาหนู หาเขียด และผ่านกระท่อมที่เดิมโดยมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยมาตามลม ตนใช้ไฟฉายส่องก็ยังเห็นเป็นคนนอน แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปดูใกล้ๆ คาดว่าพรุ่งนี้เช้าจะเข้ามาดู จนกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้หนู เขียดสักตัว ซึ่งก็ยังสงสัยคาใจ จนทนไม่ได้ชวนเพื่อนไปดูกลางดึก ให้แน่ชัดว่าเขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้กลับมีพัดกรรโชกมาอย่างแรงจนมุ้งเปิดจึงพบว่าคนที่เห็นนอนที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมาเขาตายเน่าอืดแล้ว เท่านั้นเองทั้งคู่ได้วิ่งหนีกระเจิง จนโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
               ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีญาติ 1 คน แต่ต้องถูกกักตัวเนื่องจากติดโควิด-19 ซึ่งผู้ตายได้หลบมาอาศัยหลับนอนที่กระท่อมนี้ ซึ่งเป็นของนายจ้างเป็นประจำ สาเหตุของการเสียชีวิตคาดว่าน่าจะมาจากโรคประจำตัวกำเริบ หรือเกิดจากความหิวโหยจนหมดแรงโดยไม่มีผู้ใดมาเจอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพส่งพิสูจน์ ที่ รพ.อีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้ให้กู้ภัยฯ นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องจากไม่มีญาติและครอบครัวดำเนินการ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/