สตูล-แม่ลูก ร้องขอความช่วยเหลือ ทนายความ หลังสามีเสียชีวิต

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก

         แม่ลูก ร้องขอความช่วยเหลือ ทนายความ หลังสามีเสียชีวิตขณะออกเรือหาปลาในมาเลเซีย หวังเงินเยียวยาจะต่อชีวิต ครอบครัวต่อไปได้

          เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ ศาลากลาง จ.สตูล นางสาวศิริมา เกศสระ อายุ 46ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 ม.4 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พร้อมลูกสาว 2 คน ได้เดินทางเข้าพบ นายฉัตรไชย สองเมือง ทนายความ เพื่อขอคำปรึกษา กรณีที่สามี คือนายสมไทย มงคล อายุ 59 ปี ได้เสียชีวิตลง ขณะที่ออกทำงานประมงกลางทะเลที่รัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย และได้ช๊อค อยู่ใต้ท้องเรือขณะที่เรือออกหาปลากลางทะเล นางสาวศิริมา เกศสระ กล่าวว่า สามีตนเองได้เดินทางไปทำประมงยังรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย เมื่อ3 เดือนที่ผ่านมาโดยได้รับการประสานงานจากไต๊ก๋งเรือซึ่งเป็นคนสตูล ให้ไปออกเรือยังรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย โดยการเดินทางไปทำงานนั้นได้ทำเอกสารทุกอย่างอย่างถูกต้อง แต่ ผู้ตายนั้น ได้มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน และความดัน ซึ่ง ตนเองก็ไม่อยากที่จะให้เดินทางไปทำงาน ต่างพื้นที่เพราะกลัวว่า จะไม่สบาย แต่ผู้ตายเกรงใจ คนที่ติดต่อมา จึงขอเดินทางไปทำงาน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มี คนโทรศัพท์มาแจ้งว่า สามีตนเอง หมดสติดลงในห้องเครื่อง ขณะที่เรือกำลังออกหาปลากลางทะเล ไต๊ก๋งเรือ จึงได้นำเรือเข้าฝั่ง เพื่อส่งตัวผู้ตาย ไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบ 1 สัปดาห์ ซึ่ง ตลอดมาลูกสาวได้โทรหา เถ้าแก่เรือ ซึ่ง ได้รับคำตอบกลับมาว่าเขาได้เข้าไปเยี่ยมอยู่ตลอด และ ผู้ตายรู้สึกตัวแต่พูดไม่ได้ ทางเถ้าแก่ก็ ดูแลทุกวัน แต่เนื่องจาก การเข้าเยี่ยมนั้น ทางโรงพยาบบาลจะไม่ให้เข้าเยี่ยมเนื่องจาก โควิด ระบาด และทาง โรงพยาบรัฐเปอร์ลิส จะส่งตัว กลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสตูล ก็ได้ประสานตนเองมาเพื่อที่จะประสานทาง โรงพยาบสตูล ให้รับ คนป่วยกลับซึ่ง ก็ไม่ได้มีการแจ้งมาว่าป่วยติดเชื้อโควิดแต่ทางโรงพยาบาลรัฐเปอร์ลิสต้อง ขอกักตัวคนป่วย 14 วัน นับจากวันที่ เริ่มเข้าโรงพยาบาล โดยให้ ตนเอง ประสานทางโรงพยาลสตูล ไว้ก่อน เมื่อครบกำหนด ก็จะส่งมาสตูล แต่จะส่งเพียงหน้าด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งตนเองก็ได้ดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้วและเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 64 เวลา 07.31 นาที ตนเองได้รับ ข้อความทางกล่องข้อความว่า สามีตนเองเสียชีวิต แล้ว โดยบอกว่าโควิด ลงปอด และตลอดมาทาง ตัวแทนกงสุล ประจำ ประเทศไทย ในมาเลเซีย จะมีการประสานมาตลอด ตั้งแต่ป่วยเนื่องจาก การเดินทางของ สามีตนเองนั้นเดินทางออกไปทำประมงอย่างถูกต้อง แต่ตนเอง กลับ คิดว่า ทำไม่ไต๊ก๋ง ถึงไม่ประสานเรามาบ้าง ทั้ง ๆ ที่ ตอนทำงาน ไต๊ก๋ง เป็นคนประสานมาเอง และเป็นเพื่อนกับสามีตนเอง ซึ่ง ตลอดมา ทางตนเองได้ติดต่อไต๊ก๋งเรือ ก็ ไม่สามารถติดต่อได้ แต่โชคดีว่ามีกงสุล ติดต่อมาตลอด แม้นกระทั้งวันที่เสียชีวิต ก็ยังมีการโทรมาแจ้งและ ได้พูดคุยว่า ทางกงสุล จะขอทำศพ หรือ เผาที่ วัด ณ รัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย โดยให้ ตนเอง ทำหนังสือ ยืนยันไป ว่าประสงค์จะให้ ทำศพ หรือ เผา ที่วัดไทยในรัฐเปอร์ลิส เลย เนื่องจาก คนตาย ติดโควิด การนำศพกลับมาสตูล นั้นลำบาก จึงได้ทำหนังสือ ให้ ทำการเผาที่ โน้นไปเลย และได้ มีการประสานมาว่าในวันนี้ จะทำการเก็บกระดูก และเอกสารทางราชการทั้งหมดและ จะส่งกลับมาให้ ตนเอง เนื่องจาก ทางตนเอง และครอบครัวไม่สามารถที่จะเดินทางไปรับ ยังเปอร์ลิสได้ และสิ่งที่ ทางกงสุล แจ้งมาว่า จะส่งมาให้ นั้น จะเป็นกระดูก และเอกสาร ทั้งหมด แต่ต้องใช้ ระยะเวลา อีกนิดเพื่อ จะได้เคลียเอกสารทั้งหมด ซึ่งการที่ตนเองและลูก เดินทางมาพบ ทนายความ นั้น เนื่องจาก ว่า ต้องการทราบว่า หลังจากที่ สามีตนเอง เสียชีวิต ลง ขณะออกเรือหาปลาที่รัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย และ ได้ทำเอกสารอย่างถูกต้อง ในการเดินทางไปทำงานนั้น ตนเองและ ครอบครัว จะได้รับการ ช่วยเหลือ หรือ เยียวยา จากทางรัฐ อย่างไรบ้าง ซึ่ง หลังจากที่ ได้มีการพูดคุย กับ ทนายความ เรียบร้อย ทางทนายความจึงได้ พาไป ยัง สำนักงาน จัดหางาน จ.สตูล เพื่อขอคำปรึกษา ในเรื่องของการช่วยเหลือ หรือ เยียวยาแก่ทายาท ซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า เนื่องจาก ผู้ตายนั้น เป็นคนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และการแจ้งการออกเดินทางไปทำงานยัง ประเทศมาเลเซียนั้น ได้ ทำหนังสือแจ้งออก ยัง สำนักงานจัดหางาน จ.นครศรีธรรมราช ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางาน จ.สตูล จึงได้ แนะนำในเรื่องของการ รวบรวมเอกสาร ทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปยื่นต่อ สำนักงาน จัดหางานจ.นครศรีธรรมราช เพื่อ จะได้ รับการเยียวยาแก่ทายาท จำนวน 4 หมื่นบาท

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/