นครสวรรค์-ชาวท่าตะโกเดือดร้อนเพราะน้ำท่วมหนัก
ภาพ/ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ
ชาวท่าตะโก กังขาอ่างตะคร้อ ประโยชน์ใคร คนต้นน้ำ หรือคนปลายน้ำ ควรยุบดีไหม ชาวท่าตะโกเดือดร้อนเพราะน้ำจากอ่างนี้ น้ำมีน้อยก็กักหมด ชาวนาด้านล่างอดใช้ น้ำมีมากก็ปล่อยทีเดียว ท่วมหนัก ขนของไม่ทัน สูญนับร้อยล้าน จะรวมตัวขอให้ยุบเลิก
สืบเนื่องจากกรณีที่ มีน้ำป่าไหลหลากลงมาร่วมในบริเวณพื้นที่เขตเศรษฐกิจและชุมชนในตลาดอำเภอท่าตะโก ปัญหาหนึ่งของการที่น้ำท่วมในครั้งนี้นั้น ก็สืบเนื่องมาจากการที่มีฝนตกหนัก และมีน้ำไหลหลากมาจากหลายพื้นที่ โดยน้ำส่วนหนึ่งมาจาก จังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลลงมาอำเภอไพศาลี แล้วไหลผ่านตำบลตะคร้อ ลงมาถึงตำบลทำนบ เข้าท่วมอำเภอท่าตะโก ซึ่งในปีนี้มีน้ำหลากมาในปริมาณมากกว่าปกติ และส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดมาจากทางตำบลตะคร้อ อำเภอไพศาลี ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำตะคร้อ อ่างนี้มีความจุเก็บกักน้ำได้ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัญหาหลักที่สำคัญคือ อ่างตะคร้อทำการเก็บกักน้ำไว้ในปริมาณมากจนเกินไป ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลกลัวอ่างเก็บน้ำตะคร้อจะแตก จึงมีการปล่อยน้ำลงมาอย่างกะทันหันในปริมาณมาก ทำให้เกิดน้ำท่วมตลาดท่าตะโกได้รับความเสียหายจำนวนมหาศาล คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
นางพวงพร ธีระรังสิกุล เจ้าของร้านเสียงสากล ในตลาดอำเภอท่าตะโก กล่าวว่า “อ่างเก็บน้ำตะคร้อ มีไว้เพื่อทำอะไร ไม่มีประโยชน์ต่อคนท่าตะโกเลย มีแต่ทำให้เกิดความเสียหาย และก่อให้เกิดความเสียหายมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกในปี 2553 และครั้งที่ 2 ในปี 2564 ซึ่งเป็นการปล่อยน้ำลงมาอย่างกะทันหัน น้ำจึงไหลเข้าท่วมตลาดท่าตะโก ทำให้ชาวตลาดท่าตะโกได้รับความเสียหายอย่างหนัก และไม่สามารถจะไปร้องเรียน หรือขอความช่วยเหลือจากใครได้” นางพวงพรกล่าวต่ออีกว่า “ในช่วงที่มีน้ำน้อย เขาก็กักเก็บน้ำไว้ในอ่างหมด ไม่ปล่อยให้ไหลลงมาตามลำคลอง ชาวนาที่อยู่ด้านล่างก็ไม่มีน้ำในการทำนา ไปติดต่อขอให้ปล่อยน้ำ เขาแจ้งว่าเก็บน้ำไว้เพื่อทำประปาให้กับอำเภอไพศาลี และใช้ทำการเกษตร แต่พอน้ำมาก ก็ปล่อยลงมาอย่างกะทันหัน สร้างความเสียหายให้กับชาวตลาดท่าตะโก มาถึงตรงนี้จึงคิดว่า อ่างตะคร้อยังควรจะมีอยู่อีกหรือไม่ เพราะมีไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้เกิดโทษ เกิดความเสียหาย ซึ่งชาวตะโกยังคิดจะรวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องให้ยุบเลิกอ่างนี้ และปล่อยให้น้ำไหลมาตามธรรมชาติ ถ้ามีน้ำน้อย ก็ยังได้ใช้น้ำทำการเกษตรได้บ้าง ถ้ามีน้ำมากน้ำก็จะไหลลงมาเรื่อยๆโดยไม่เกิดการไหลมาในปริมาณมากแบบกระทันหันอย่างนี้” ในวิธีการหาทางแก้ไขปัญหาอีกทางหนึ่ง มีผู้เสนอแนะว่า ควรมีการขุดขยายเพิ่มพื้นที่ของอ่างตะคร้อ ให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือขุดอ่างลงไปให้ลึกมากกว่าเดิม จะสามารถเก็บน้ำได้ในปริมาณที่มากขึ้นอีกอย่างน้อย 40-50 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะทำให้มีน้ำมากเพียงพอที่จะใช้ในการทำการเกษตรหรือทำประปาให้กับอำเภอไพศาลี และยังสามารถระบายน้ำลงมาในพื้นที่ด้านล่างให้ชาวนาได้มีน้ำทำนาด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/