ร้อยเอ็ด-ผวจ.ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ

ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน

ผวจ.ร้อยเอ็ด นำส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อให้กำลังใจและเตรียมการช่วยเหลือชาวร้อยเอ็ดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

          นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์มวลน้ำในน้ำชีล้นตลิ่ง ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด , พลตรีวรเชษฐ์ ชวนะนรเศรษฐ์ ผู้บังคับบัญชามณฑลทหารบกที่ 27 , พันเอก สาธิต อุ่นกาย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด , พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายเกรียงไกร จิตธรรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด , นายอำเภอจังหาร นายอำเภอเชียงขวัญ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามสถานการณ์ เพื่อให้กำลังใจและเตรียมการช่วยเหลือชาวร้อยเอ็ดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ณ บ้านหนองแค หมู่ 8 ตำบลม่วงลาด , ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร และพื้นที่อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
          ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ด มีนโยบายให้แก่นายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 8 อำเภอ ที่มีลำน้ำชีไหลผ่าน ประกอบด้วย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอธวัชบุรี อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอเสลภูมิ อำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภอพนมไพร และอำเภออาสามารถ ในการติดตามสถานการณ์น้ำ การป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย เพื่อเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำที่ไหลผ่านลำช้ำชีมา ปัจจุบันมวลน้ำไหลบ่าเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งลำน้ำชีในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองมหาสารคาม และ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม , บริเวณริมลำน้ำชี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ และเอ่อล้นบริเวณพื้นที่ริมลำน้ำชี ตำบลม่วงลาด และตำบลดงสิงห์ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งทางชลประทานร้อยเอ็ด คาดการณ์ว่าจะมีมวลน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 40 ซม. จากระดับน้ำปัจจุบัน ในระยะ 2 – 3 วันนี้ และขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเคลื่อนย้ายสิ่งของ เครื่องจักร และยานพาหนะขึ้นสู่ที่สูง โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย (ลุ่มน้ำชี) จำนวน 8 อำเภอ 18 ตำบล 49 หมู่บ้าน มีประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ จำนวน 4,196 ครัวเรือน 15,039 คน และมีกลุ่มเปราะบาง 2,645 คน
          นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้าน เพราะว่าเวลาน้ำท่วม น้ำจะตีโอบล้อมรอบหมู่บ้าน ทำให้เส้นทางเข้าหมู่บ้านได้ถูกตัดขาด แต่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการจัดเรือเข้าไปรับนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉินหรือกลุ่มเปราะบางออกมาก่อน หรือว่าไปอยู่ที่อื่นก่อน และยังมีส่วนที่ติดอยู่ด้านในประมาณ 30 หลังคาเรือน แต่ความเป็นอยู่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ในส่วนนี้ยังมีวิถีชีวิตที่เป็นปกติเพียงแต่ถูกน้ำล้อมรอบไว้ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือการจะดูแลพี่น้องประชาชน ในเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ และเน้นย้ำว่าอย่าปล่อยปละละเลยเด็กออกมาเล่นน้ำ และในส่วนของไฟฟ้าจากการประชุมวันนี้หากมีน้ำท่วมเมื่อไหร่ให้รีบดำเนินการตัดไฟทันที เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต และขอขอบคุณทุกภาคส่วนในความเสียสละที่ได้มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวร้อยเอ็ดที่ประสบปัญหาอุทกภัย และเราจะร่วมกันผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน