ประจวบคีรีขันธ์-เปิดใจ…นักเศรษฐศาสตร์เมืองไทย

ภาพ/ข่าว:ชำนาญ พึ่งเจาะ

           เปิดใจ…นักเศรษฐศาสตร์เมืองไทย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รอง หน.พรรคประชาธิปัติ หน.ทีมเศรษฐกิจรองนายกรัฐมนตรีฯ

           เวลา 13.00 นำวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ รร.หัวหินแกรนด์ฯ อ.หัวหิน จะ.ประจวบคีรีขันธ์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รอง หน.พรรคประชาธิปัติ หน.ทีมเศรษฐกิจรองนายกรัฐมนตรีฯ ร่วมวงเสวนาการค้า เศรษฐกิจ ยุคใหม่ให้กับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่(ยังบลัด) ของ จ.ประจวบฯและใกล้เคียงได้ร่วมรับฟังเพื่อนำรูปแบบระบบไปใช้ในธุรกิจนั้นให้ทันต่อสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่กำลังเปลี่ยนแปลง นายปริญญ์ กล่าวว่าขณะนี้ธุรกิจทั่วโลก เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่ การค้าขายวสินค้าสิ่งของสู่ระบบ”ออนไลน์”และปรับเปลี่ยนเงินตราจาก”แบ๊งค์โน๊ต” มาเป็นเงิน”ดิจิตอล”เงินสกุล”บิดคอย”ซึ่งขณะนี้ในประเทศที่เจริญแล้วอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และ สแกนดิเนเวีย เขาได้ใช้ระบบนี้มาร่วม 10 ปีแล้ว

            เนื่องจากระบบมันง่าย สะดวกในการที่จะจ่ายและรับ ไม่ต้องจ่ายออกมาเป็น”แบ๊งค์โน๊ต”ในส่วนของประเทศไทายเรานั้นยังไม่ยอมรับระบบเงิน”ดิจิตอล”เงินเหรียญสกุล”บิดคอย”เพราะยังมีข้อกฏหมายควบคุมอยู่มันจึงทำให้ระบบการเงิน เศรษฐกิจ ของประเทศไทยเรายังเดินไปข้างหน้าสู่ความเป็นสากลไม่ทันกับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ประกอบกับทางด้าน สถาบันการเงิน ธนาคารก็ยังจำกัดกลุ่มคนในระดับล่าง กลาง ที่จะทำธุรกิจต่างๆในการที่จะลงทุนที่จะต้องกู้ยืมจากสถานบันการเงิน ธนาคาร ซึ่งจะต้องมี ตัวเลขเงินฝากโชว์ให้ได้เห็น มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีผู้ค้ำประกัน และอื่นๆ
ซึ่งในส่วนนี้แหละที่เป็นปัญหาก่อให้เกิดความเลื่อมล้ำทางสังคม การลงทุนปัญหาของผู้คนชาวไทยเราที่ยากจนกันอยู่ในทุกวันนี้คือ การเมือง สถาบันการเงิน ที่ทำให้ขาดโอกาสทางด้านการเงินที่จะลงทุนในการทำธุรกิจต่างๆในขนาด เล็กและกลาง เพราะฉะนั้นจะต้องมีการแก้ไขข้อกฏหมายทางด้านการเงิน การธนาคาร ซึ่งพรรคการเมืองจะต้องเป็นผู้ดำเนินการนายปริญญ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ประเทศไทยเรานั้นจุดขายทางด้านเศรษฐกิจ นั้นก็คือ “รูทส์” รากเหง้า วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ โบราณสถาน และกิจกรรมในแต่ละภูมิภาคที่ไทยเรามีอยู่ มิใช่ทางด้านการเกษตรเพียงอย่างเดียว เพราะตัววัฒนธรรมเหล่านี้มันเป็นจุดขายที่จะทำให้ผู้คนต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมแล้วเม็ดเงินรายได้มันก็จะตกอยู่กับกลุ่มผู้คนในทุกระดับการเสวนาในครั้งนี้ได้สร้างอารามย์ร่วมให้กับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่(ยังบลัด)เป็นอย่างยิ่งเพราะมีการโต้ตอบและแสดงความคิดเห็นกันในทิศทางต่างๆแบบร่วมสมัยเพื่อสู่อนาคต สำหรับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ นั้นมีความเชียวชาญทางด้าน เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ในประเทศและต่างประเทศและเคยดำรงตำแหน่งงานทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน กับองค์กรสถาบันต่างๆ ทั้งในประเทศต่างประเทศ และปัจจุบันได้เข้าสู่การเมืองในฐานะรอง หน.พรรคประชาธิปัติ และ หน.ทีมเศรษฐกิจให้กับรองนายกรัฐมนตรี
และเป็นบุตรชายของ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต ผอ.องค์การค้าโลก(WTO) แหละเลขาธิการอังค์ถัด ซึ่งเป็น 2 องค์กรระหว่างประเทศ.