ศรีสะเกษ-น้องสาวเชื่อว่าพี่สาววัย 83 ปีป่วยสติไม่เต็มร้อยโดนอุ้มไปข่มขืนใต้ต้นมะม่วง

ศรีสะเกษ-น้องสาวเชื่อว่าพี่สาววัย 83 ปีป่วยสติไม่เต็มร้อยโดนอุ้มไปข่มขืนใต้ต้นมะม่วง

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

          น้องสาวเชื่อว่าพี่สาววัย 83 ปีป่วยสติไม่เต็มร้อยโดนอุ้มไปข่มขืนใต้ต้นมะม่วง ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์เร่งสืบหาคนร้าย

            เมื่อวันที่ 21 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งร้องเรียนผ่านเพจอีซ้อขยี้ข่าวว่า ยายของตน อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยนอนอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ได้ถูกคนร้ายอุ้มไปข่มขืน แล้วทิ้งยายไว้ที่ต้นมะม่วงบริเวณข้างบ้าน จนกระทั่งแม่ของตนมาพบและรีบนำตัวยายไปส่งยัง รพ.กันทรลักษ์ โดยเหตุเกิดที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่งเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางปอ อายุ 63 ปี เป็นแม่ของผู้ที่ร้องเรียนเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้แจ้งว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 13 พ.ย.64 โดยพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งว่า มีหญิงชรา อายุ 83 ปี ถูกข่มขืน ขณะนี้นำตัวไปพบแพทย์และพักรักษาตัวที่ รพ.กันทรลักษ์ ตนจึงได้สั่งการให้ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ พร้อมด้วย ร.ต.ท. วินัย จำปาเรือง รอง สว.สืบสวนสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยได้ไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านมีแคร่ตั้งอยู่ และบริเวณกลางบ้านพบนางสอน (นามสมมุติ) อายุ 83 ปี ป่วยเดินเหินไม่สะดวก นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในบ้าน และได้พบกับนางปอ (นามสมุติ) อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนางสอนโดยนางปอได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ โดยพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ใต้ต้นมะม่วง ห่างจากตัวบ้านประมาณ 20 เมตร              จากการสอบสวนเบื้องต้น นางปอ อายุ 63 ปี น้องสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 13 พ.ย.64 เวลาประมาณ 18.00 น.ตนได้เปิดไฟไว้ในบ้านและปิดประตูตาข่ายล็อคกลอนด้านในเอาไว้ โดยได้บอกกับนางสอน ซึ่งเป็นพี่สาวว่าจะไปทำบุญฟังพระสวดมนต์ฉลองกฐินที่วัดบ้านกอก จากนั้นได้เดินออกมาหน้าบ้าน และได้ยืนดูนางสอน ที่กำลังใช้มือเขย่าประตู เพื่อให้เปิดออก นางสอนตะโกนว่า ปิดประตูเอาไว้ จะไปปัสสาวะอุจจาระก็ไม่สะดวก และเขย่าประตู เนื่องจากว่า นางสอนสติไม่เต็มร้อย ทำให้ตนโกรธ เกรงว่าประตูจะพังเพราะว่าเป็นประตูบ้านที่ไม่มั่นคง ด้วยความโมโหตนจึงได้เดินเข้าไปปิดไฟและเปิดประตูหน้าบ้านทิ้งเอาไว้ปล่อยให้นางสอนอยู่ในบ้านท่ามกลางความมืด จากนั้นตนได้เข้าไปฟังพระสวดมนต์ที่วัดบ้านกอก ห่างจากบ้านไม่ไกลมากนัก ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน ตนได้กลับมาบ้านและเปิดไฟภายในบ้าน ก็ไม่พบนางสอนอยู่ภายในห้อง พบเพียงผ้าถุงและผ้าห่มของนางสอนกองอยู่กับพื้น ตนจึงได้เก็บผ้าถุงและผ้าห่มขึ้นไปกองไว้บนแคร่บนที่นอน จากนั้นจึงได้ตะโกนร้องเรียกหานางสอน แต่ไม่พบ จึงได้ไปเรียกนางตรี (นามสมมุติ )อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ และหลานชายให้มาช่วยกันออกตามหา ใช้เวลาตามหาบริเวณถนนในหมู่บ้าน ประมาณ 30 นาที ก็ไม่พบ จึงได้พากันมาเดินหารอบบริเวณบ้าน ทันใดนั้นนางตรีได้ยินเสียงคล้ายกับกิ่งไม้ดังห่างจากบ้านไปประมาณ 20 เมตร พวกตนจึงได้ออกไปดู ได้พบกับนางสอนนั่งชันเข่า มือสั่น ไม่ได้นุ่งผ้าถุง สวมเพียงเสื้อคอกระเช้าตัวเดียวนั่งอยู่ใต้ต้นมะม่วง ตามร่างกายไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด ตนจึงได้ให้หลานชายอุ้มเอานางสอนเข้าไปในบ้าน ให้นั่งบนเก้าอี้แล้วทำการอาบน้ำให้ โดยตนได้ใช้มือล้วงทำความสะอาดตามร่างกายของนางสอน ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด ต่อมาเช้าวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ย.64 หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ตนได้ถามนางสอนว่า ใครอุ้มไปที่ต้นมะม่วง นางสอนบอกว่าเป็นเสียงผู้ชายเข้ามาถามว่าอยู่กับใคร นางสอนบอกว่าอยู่คนเดียว ผู้ชายที่ถามซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร และไม่เห็นหน้า เพราะปิดไฟในบ้านมืด ได้จูงนางสอนไปที่บริเวณที่พบตัวนางสอน ใต้ต้นมะม่วงห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร และพบกระเป๋าเงินของนางสอนที่ไม่มีเงินตกอยู่ใกล้กัน               นางปอ เล่าต่อไปว่า ตนได้ตรวจดูบริเวณก้นของนางสอน พบว่าเป็นรอยคราบขาวๆ ลักษณะคล้ายกับโดนข่มขืน จึงได้ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ และได้ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ทราบเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 พ.ย.64 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบและได้ส่งตัวนางสอนไปพบแพทย์ที่ รพ.กันทรลักษ์ เพื่อตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเรา โดยนางสอนได้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กันทรลักษ์ 2 วัน จึงได้กลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนเชื่อว่านางสอนต้องถูกคนร้ายอุ้มตัวไปข่มขืนบริเวณใต้ต้นมะม่วงอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าหากนางสอนเดินหรือคลานไปเอง จะต้องมีร่องรอยต้นหญ้าล้มราบเป็นทางไป แต่ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนที่ของนางสอนไปที่บริเวณใต้ต้นมะม่วง จุดที่พบตัวนางสอนแต่อย่างใด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้โดยด่วนด้วย เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายรายนี้อาจจะกลับมาทำร้ายตนและนางสอน เพราะว่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียง 2 คนพี่น้องเท่านั้นพ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามสืบหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว ทั้งนี้จะต้องรอผลการตรวจของแพทย์ รพ.กันทรลักษ์ซึ่งจะทราบผลในวันที่ 1 ธ.ค. 64 นี้ว่า นางสอนถูกข่มขืนกระทำชำเราจริงหรือไม่ อย่างไร จากนั้นจะได้เร่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!