สระบุรี-สยองบรรทุกพ่วงทับขาหนุ่มขี่จยย.เละทั้ง 2 ข้าง

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

สยองบรรทุกพ่วงทับขาหนุ่มขี่จักรยานยนต์เละทั้ง 2 ข้าง

          วันที่ 27 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ หนุ่มขับรถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกพ่วงทับขาเละทั้ง 2 ข้าง บริเวณกลางสะพานนาร่อง หมู่ 2 ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.สระบุรี ที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า MSX สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มอยู่ท้ายรถบรรทุกพ่วง ใต้ท้องรถบรรทุกพ่วง(ตัวลูก) พบร่าง นายบอย พลพัฒน์ อายุ 27 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ นอนร้องครวญคราง ด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากขาทั้ง 2 ข้างถูกล้อรถบรรทุกพ่วงทับอยู่ จนเละทั้ง 2 ข้าง มีเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการห้ามเลือดก่อน และนำแม่แรงมายกรถบรรทุก เพื่อที่จะนำร่างของนายบอยออกมา แต่ไม่สามารถยกรถขึ้นได้เนื่องจากรถบรรทุกพ่วงได้บรรทุกปูนมาเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจให้คนขับรถบรรทุกพ่วง เลื่อนรถขึ้นไปด้านหน้า ให้ล้อพ้นจาการทับขาทั้ง 2 ข้าง จากนั้นได้ทำการปฐมพายาบาลแล้วเร่งนำส่ง รพ.สระบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุต่อไป
          ทางด้าน นางบุญล้ำ ศิลารัตน์ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างฯ เล่าว่า ตนเองเห็นล้อรถพ่วงทับขาผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ข้าง ในสภาพเละ ไม่สามารถช่วยออกมาได้ ต้องทำการให้คนขับรถบรรทุกพ่วงขยับรถเดินหน้าออกไป เพราะให้แม่แรงยกแล้วยกไม่ขึ้นเนื่องจากรถบรรทุกปูนมาหนักมาก ตอนเอารถขยับออกคนเจ็บร้องเสียงหลงเลยแทบน็อค
          ทางด้าน นายวิโรจน์ เลิศศิลป์ อายุ 60 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง หมายเลขทะเบียน(ตัวแม่) 61-7050 กรุงเทพมหานคร และ61-7153 กรุงเทพมหานคร(ตัวลูก) เล่าว่า ตนเองขับรถบรรทุกปูนมาจากอำเภอแก่งคอย เพื่อที่จะไปส่งยัง จ.อยุธยา ขณะขับมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองต้องเลี้ยวขวาเพื่อข้ามสะพาน โดยมีรถด้านหน้าจอดให้ตนเองเลี้ยว จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์วิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้พุ่งชนตัวลูกของรถบรรทุก ล้มลง คนขับรถจักรยานยนต์น่าจะไถลไปใต้ท้องรถ และถูกล้อรถทับ ในด้านส่วนตัวแล้วตนเองรู้สึกเสียใจที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งตนก็ไม่ได้เจตนาให้มันเกิดขึ้น ตนเองได้เปิดไฟเลี้ยวมาตั้งไกลแล้ว ซึ่งเมื่อเลี้ยวแล้วรถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนรถตนเองก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุด้วย