ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านร้องสื่อ ถูกแม่กีดกัดไม่ให้ไฟฟ้าต่อหม้อไฟเข้าบ้าน

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านร้องสื่อ ถูกแม่กีดกัดไม่ให้ไฟฟ้าต่อหม้อไฟเข้าบ้าน

ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม

                  ชาวบ้านร้องสื่อ ถูกแม่กีดกัดไม่ให้ไฟฟ้าต่อหม้อไฟเข้าบ้าน ต้องทนจุดเทียนมานานกว่าครึ่งเดือน

             เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 น.ส.สุธาศินี แซ่ซัว (ขอสงวนชื่อนามสกุล )น.ส.นี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/1 ม.8 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ หลังจากถูกแม่และน้องสาวกีดกันไม่ให้การไฟฟ้าต่อไฟจากหม้อไฟเข้าบ้านแถมยังถูกฟ้องขับไล่ออกจากบ้านที่อยู่อาศัยมานานกว่า 20 ปี ส.น.นี น.ส.นี นามสมมุติ เปิดเผยว่า ตนอยู่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 97/1 ม.8 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบฯ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดิน สปก. เดิมเป็นชื่อของตน และต่อมา เมื่อปี 2553 ได้มีการโอนย้ายที่ดินผืนดังกล่าวไปให้กับ นางสนิท เกิดพุ่ม ซึ่งเป็นแม่ของตน โดยต่อมาทางแม่และน้องสาวได้มีการปลูกสร้างห้องเช่า ซึ่งตนเห็นว่าเมื่อเป็นห้องเช่าแล้ว ตนยังต้องแบกภาระค่าไฟที่ตนเสียอยู่มาโดยตลอดจึงได้ตัดสินใจขอบ้านเลขที่ใหม่แยกออกมาเป็นบ้านเลขที่ของตนในปัจจุบัน ต่อมาตนจึงไปทำเรื่องที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อขอแยกหม้อไฟออกมา เข้าบ้านของตนเองเพื่อตัดภาระในส่วนของห้องเช่า ออกไปซึ่งตนก็ไม่ได้เงินค่าเช่าในส่วนนี้             แต่เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทางไฟฟ้าได้เข้ามาดำเนินการแยกมิเตอร์ไฟให้ที่เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน และกำลังจะดำเนินการต่อกระแสไฟเข้าบ้านพักของตน แต่ได้ถูกทางแม่และน้องสาวเข้ามาขัดขวางและขู่ทางเจ้าหน้าที่ ห้ามมิให้มีการต่อสายไฟดังกล่าว เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเห็นว่ามีการโต้เถียงกันระหว่างตนกับทางครอบครัวจึงเดินทางกลับทันทีหลังจากที่ติดมิเตอร์ไฟไว้ที่เสาหน้าบ้านแต่ยังไม่ได้มีการต่อเชื่อมเข้ามาในบ้าน ส่งผลให้ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้และได้พยายามมีการเดินทางไปยัง สภ.บางสะพานน้อย เพื่อขอแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความบอกว่าให้ไปเคลียร์กับทางไฟฟ้า ตนจึงไปที่ไฟฟ้าฯ ก็บ่ายเบี่ยงโยนกันไปมาทั้งๆที่ ตนมีการขอบ้านเลขที่ถูกต้อง มีการขอใช้ไฟถูกต้อง แต่ไม่เช้าใจว่าทำไมถึงไม่มีการต่อหม้อไฟให้ตน จึงขอร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อเพราะตนก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครเเล้ว ด้านนายชิน สุดพิมศรี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.ช้างแรก อ .บางสะพานน้อย กล่าวว่า เดิมทีที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของ น.ส.นี ต่อมาเมื่อ น.ส.นีแต่งงานและมีบุตรกับสามี 2 คน แม่ของ น.ส.นี( นามสมมุติ) เกิดไม่ไว้วางใจลูกเขย จึงให้ น.ส.สุธานีโอนที่ดินทั้งหมดให้แล้วเมื่อบุตรของ น.ส.นี( นามสมมุติ) โตบรรลุนิติภาวะแล้วจะโอนให้เป็นชื่อของหลานทั้ง 2 คน แต่จนถึงปัจจุบันซึ่งบุตรของ น.ส.นี (นามสมมุติ) อายุเกิน20 ปี ก็ยังไม่มีการโอน จึงเป็นที่มาของปัญหาของครอบนี้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!