สมุทรปราการ-นักเลงวัดเหนือ เหิมถูกค้นเจอยาบ้าในตัวแย่งปืนตำรวจยิงใส่เบิกทางหนีถูกยิงสวนดับ

สมุทรปราการ-นักเลงวัดเหนือ เหิมถูกค้นเจอยาบ้าในตัวแย่งปืนตำรวจยิงใส่เบิกทางหนีถูกยิงสวนดับ

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

นักเลงวัดเหนือ เหิมถูกค้นเจอยาบ้าในตัวแย่งปืนตำรวจยิงใส่เบิกทางหนีถูกยิงสวนดับ

           เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 27 ธันวาคม 2564 พ.ต.ท.ประจวบ แขตสันเทียะ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้ต้องหายาเสพติดได้แย่งอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.สำโรงใต้ ขณะกำลังจับกุมและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ และถูกเจ้าหน้าที่ยิงสวน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาล้มเสียชีวิตอยู่ที่หลังบ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 ซอยชุมชนหมู่ 4 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดบริเวณหลังบ้านดังกล่าวได้พบร่างของนายสาคร สินทรัพย์ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี น่องเสียชีวิตคาอยู่ที่บันใดทางขึ้นชั้นสองซึ่งอยู่หลังบ้านสภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด และที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ในสภาพที่โครงพลาสติกกลางรถมีลอยเลือดหยดติดอยู่จำนวนมาก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สายตรวจตราโล่ 88304 ของเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.สำโรงใต้ ที่ถูกแย่งปืนและไล่ติดตามมาจอดอยู่ ทราบชื่อ ส.ต.อ.ธีรสัฒน์ เศษแสนวงศ์ และ ส.ต.ต.อำนาจ สมศรี ผบหมู่ งานป้องกันและปราบปราม สภ.สำโรงใต้ ห่างไปประมาณ 50 เมตรได้พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.สีดำ ของ ส.ต.ต.อำนาจ ที่ถูกแย่งมาตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเหตุเกิดที่ภายในซอยอ่ำหงส์ หมู่ 1 ท้ายซอยวัดสำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตประมาณ 1 กิโลเศษ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและประสานแพทย์โรงพยาบาลบางจากร่วมชันสูตรศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช ก่อนเดิรทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในซอยอ่ำหงษ์ ท้ายซอยวัดสำโรงใต้ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอกพร้อมด้วยยาบ้านจำนวน 19 เม็ดบรรจุอยู่ในถุงซิบและยาไอซ์ห่อเล็กอีก 1 ห่อที่ตกอยู่บนพื้นถนน

             จากการสอบถามนายเอ (ขอสงวนชื่อจริง) เพื่อนของผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาตนที่บ้าน ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อที่จะกลับบ้าน ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจสองนาย ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพบเข้าจึงได้ขอตรวจค้นเนื่องจากรถจักรยานยนต์ไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งผู้ตายก็ยอมให้ตรวจค้น ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้พบยาบ้าอยู่ในตัว ผู้ตายจึงได้ขัดขืนและพยายามจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกิดการชุลมุนขึ้นและผู้ตายได้แย่งปืนจากเอวของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ก่อนที่จะยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนที่จะยิงใส่ตำรวจ ตำรวจต่างพากันหลบกระสุนผู้ตายก็ยิงใส่ตำรวจจนหมดแมก แต่จริงผู้ตายก็ผิด ทำผิดแล้วยังขัดขืนเจ้าหน้าที่ ในเมื่อผู้ตายยิงใส่ตำรวจก็ต้องยิงปกป้องตัวเอง ซึ่งปกติแล้วผู้ตายมีนิสัยเป็นนักเลงอันพาลไม่กลัวใครและติดยาเสพติดด้วยมีประวัติทั้งขายทั้งเสพ จนมีฉายาอ้ายวัดเหนือ             พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เปิดเผยหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ของ สภ.สำโรงใต้ กำลังตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบผ่านไปทางบริเวณชุมชนอ่ำหงษ์ ท้ายซอยวัดสำโรงใต้ ได้ไปเจอชายต้องสงสัย ท่าทางมีพิรุธลี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงเข้าไปขอตรวจค้นตัว และได้พบยาบ้าจำนวนหนึ่งและขณะกำลังจะควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้หันไปแย่งอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการยิ่งใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้กระโดดหลบและยิงส่วนไป ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่ทราบว่าถูกใครบางหรือไม่ ก่อนท้ายคนดังกล่าวจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปโดยเอาอาวุธปืนที่ชิงมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดมือไปด้วย โดยขี่หลบหนีเข้ามาทางชุมนวัดสำโรงเหนือ และชายคนดังกล่าวมานอนบาดเจ็บอยู่ที่บันใดหลังบ้านของชาวบ้านในชุมนแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านก็ออกมาดูซึ่งขณะนั้นชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิต และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนแล้ว โดยปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกชิงมาก็ตกอยู่ที่พื้นขณะหลบหนีมาห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 30 เมตร และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้เสียชีวิตพบว่าเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ และติดคุกอยู่นานหลายปีแต่ประวัติโดยละเอียด จะทำการสอบสวนอีกครั้ง โดยจากพยานหลักฐานเป็นไปในทางว่าได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการต่อสู้กันมีการใช้ปืนใส่กลุ่มผู้ตาย ซึ่งในชั้นนี้ก็จะตั้งเป็นสำนวนการชันสูตรพลิกศพขึ้นมา และจะได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!