ราชบุรี-กู้ชีพแต่งชุดแฟนซี รับส่งผู้ป่วยสร้างความสุขให้ผู้ป่วย
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
หน่วยกู้ชีพทต.หลักเมือง ผุดไอเดียเก๋ แต่งชุดแฟนซี รับส่งผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง หวังสร้างรอยยิ้มและกำลังใจให้ผู้ป่วยและญาติ ขณะจนท.ชี้ได้ผลดีลดความเครียดความพะวงให้ผู้ป่วย
วันที่ 7 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลหลักเมือง ผุดไอเดียเก๋แต่งชุดแฟนซี คอยรับส่งผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องไปหาหมอตามนัด พร้อมเข้าพบปะเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เพื่อสร้างรอยยิ้มและส่งมอบความสุขให้กับตัวผู้ป่วยและญาติที่ดูแลผู้ป่วยด้วย ซึ่งในวันนี้ทางทีมกู้ชีพของทต.หลักเมือง ได้มาลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 9 ต.พงสวาย อ.เมืองราชบุรี ของร.ต.อุทัย บุญประดิษฐ์ อายุ 89 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยติดเดียงด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ โดยมีกู้ชีพที่แต่งตัวเป็นชุดแซนตี้ทำหน้าที่คอยตรวจวัดความดันและอุณหภูมิของร่ายกายในเบื้องต้น ซึ่งเมื่อผู้ป่วยและญาติได้เห็นน้องแซนตี้ก็รู้สึกประหลาดใจและอดยิ้มไม่ได้ เพราะปกติเวลาที่มีการเข้ามาเยี่ยมจะใส่ชุดกู้ชีพสีขาวมา แต่ครั้งนี้ใส่ชุดแซนตี้มา จึงสร้างรอยยิ้มให้ผู้ป่วยยิ้มได้
ด้านนายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีทต.หลักเมือง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่ออยากสร้างรอยยิ้มและความสดชื่นให้กับตัวผู้ป่วยและญาติ เพราะลำพังอาการป่วยก็แย่อยู่แล้วจึงอยากให้ผู้ป่วยมีอะไรที่เป็นพลังใจในการต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่ ทั้งลดความเครียดให้กับตัวผู้ป่วยและญาติที่ดูแล ซึ่งกิจกรรมนี้เราจะให้รับเฉพาะเคสผู้ป่วยที่มีนัดไปตรวจกับทางรพ.เพื่อพบหมอเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเคสฉุกเฉินเราจะมีทีมกู้ชีพที่แต่งกายตามระเบียบรอปฏิบัติการอยู่แล้ว
นายสินาด ยังกล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางทต.หลักเมืองได้ ทำระบบ sos emergency wireless เป็นระบบที่ผู้ป่วยสามารถกดสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพได้ทันที ซึ่งจะนำร่องให้กับผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง จำนวน 50 ราย จากที่เราดูแลทั้งหมด 113 ราย และในวันนี้เราจะได้เข้ามาแจ้งรายละเอียดถึงขั้นตอนการใช้งานกับทางญาติและตัวผู้ป่วยเองด้วย
ด้าน นางแววดาว ทองอรัญญิก ผอ.กองสาธารณสุขทต.หลักเมือง ได้เปิดเผยถึงกิจกรรมกู้ชีพแต่งแฟนซีส่งมอบความสุขให้ผู้ป่วยนั้น เนื่องจากผู้ป่วยบางคนอาจมีภาวะทางจิตใจที่อ่อนแอ ถ้าเราไปเสริมสร้างกำลังใจตรงนี้ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ส่วนเรื่องระบบ sos emergency wireless ที่เรากำลังดำเนินการอยู่นั้น เราทำเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับตัวผู้ป่วยและเป็นการช่วยลดภาระให้กับทางญาติอีกทางหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้เราได้มาเพียงแค่ 50 เครื่องเท่านั้น ซึ่งเรานำร่องลองใช้ระบบก่อน ถ้าดีเราจะพยายามหามาให้ครบจำนวนของผู้ป่วยสูงอายุที่ป่วยติดเตียงให้ครบตามจำนวนที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางทต.หลักเมือง