เตือนภัยสงสัยมิจฉาชีพตีเนียนส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางมูลค่าหลักพันทั้งที่ไม่ได้สั่ง
ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงษ์ประเสริฐ
เจ้าของบริษัทดังเมืองประจวบ ร้องสื่อช่วยเตือนภัยสงสัยมิจฉาชีพตีเนียนส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางมูลค่าหลักพันทั้งที่ไม่ได้สั่ง แถมสินค้าราคาหลักร้อย เผยผู้เสียหาย 1 เดือนมากกว่าหมื่นรายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
วันที่ 28 มกราคม 65 นายชยิน เชาวน์ปรีชา เจ้าของบริษัทดิโอเอซิสไทย จำกัด ได้นำกล่องพัสดุซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,000 บาทเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์เตือนภัยกับผู้อื่นจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวตนไม่ได้สั่ง และ ราคาพัสดุแพงกว่าราคาสินค้าภายในกล่องจำนวนมาก จากนั้นได้เดินทางเข้าแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันกับร้อยตำรวจโท เมธาสิฐ ณพัทลุง ร้อยเวรสอบสวน ที่ สภ.เมืองประจวบ ซึ่งคาดว่าแก๊งมิจฉาชีพเป็นผู้จัดส่งตามที่อยู่ของตนแล้วส่งเก็บเงินปลายทาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มีจำนวนหลายราย โดยสินค้าไม่ได้มีการระบุชื่อผู้ส่ง ระบุเพียงที่อยู่ซึ่งเหมือนกับผู้เสียหายรายอื่นๆ เลขที่บ้านและเลขที่ห้องเดียวกัน แต่คนละจังหวัด
นายชยิน เชาวน์ปรีชา เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ออกไปบริการลูกค้านอกสถานที่ ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ขนส่งพัสดุโทรหาตนว่ามีสินค้ามาส่ง ตนจึงได้บอกให้นำมาส่งไว้ที่ร้านตน เนื่องจากคิดว่าเป็นอะไหล่คอมพิวเตอร์ที่ตนเองสั่งมาเป็นประจำ และหลังจากนั้นภรรยาของตนได้เป็นผู้รับสินค้าไว้ให้ และเมื่อตนกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเป็นสินค้าที่ตนไม่ได้สั่ง และที่อยู่ผู้ส่งตนก็ไม่รู้จัก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,000 บาท เมื่อแกะกล่องสินค้าออกดูก็พบสินค้าภายในเป็นสร้อยราคามูลค่าไม่ถึง 100 บาท จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อนำใบแจ้งความไปเป็นหลักฐานยื่นแสดงต่อบริษัทขนส่งพัสดุ ให้ช่วยทำเรื่องคืนสินค้า และคืนเงินให้กับตนเอง พร้อมกับร้องสื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ป้องกันมีผู้เสียหายรายอื่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ตรวจสอบทาง Facebook มีผู้เสียหายจากที่อยู่นี้จำนวนมาก และเมื่อเช็คกับบริษัทขนส่งปรากฏว่าได้มีการใช้ที่อยู่และรหัสผู้ส่งรายนี้ส่งสินค้าไปตามจังหวัดต่างๆ ภายใน 1 เดือนมีมากถึง 17,000 ชิ้น ส่งสำเร็จประมาณ 1 หมื่นชิ้น ตีกลับหรือไม่รับพัสดุประมาณ 3000 ชิ้น ที่เหลืออยู่ระหว่างขนส่ง ซึ่งรวมมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน เพราะฉะนั้นใครที่มีพัสดุจากที่อยู่ผู้ส่งรายนี้ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใดส่งถึงก็ให้ปฏิเสธการรับสินค้าไปได้เลย นายอภิสิทธิ์ พรมเมศ อายุ 24 ผจก.j&t สาขาเกาะหลัก เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้รับสินค้าพัสดุ โดยไม่ได้ตั้งใจคิดว่าเป็นสินค้าของตนจริงๆจำนวนหลายราย เพราะฉะนั้นจึงแนะนำว่าทุกครั้งก่อนรับสินค้าให้ตรวจสอบประวัติการสั่งสินค้าตนเองให้ดีก่อนว่าได้สั่งสินค้าอะไรไปบ้างมูลค่าสินค้าแต่ละชิ้นราคาเท่าไรเพื่อป้องกันการถูกลอก แต่ถ้าหากไม่มั่นใจก็ให้ปฏิเสธการรับสินค้าไปเลยจะ ได้ไม่ถูกหลอก และไม่ยุ่งยากเสียเวลาในการทำเรื่องขอคืนเงิน เนื่องจากใช้เวลานานประมาณ 1 สัปดาห์ และที่ผ่านมาผู้เสียหายหลายรายไม่ดำเนินการขอคืนสินค้าและขอเงินคืนเนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซึ่งที่อยู่และรหัสผู้ส่งสินค้ารายนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นลูกค้า VIP ของ บริษัทขนส่งเจแอนด์ที แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกค้า VIP ของ บริษัทขนส่งสาขาใด โดยพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ที่อยู่ผู้ส่งรายนี้ได้ส่งสินค้ากระจายไปตามจังหวัดต่างๆมีมากถึง 17,000 รายการ