ประจวบคีรีขันธ์-ไม่รอด จับ รถขนแรงงานพม่าทะลักเข้าไทยไม่หยุด
ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 สายตรวจตำรวจทางหลวงประจำจุดอำเภอบางสะพานชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนาม (แต่ประสงค์เงินรางวัลนำจับ ) ว่า จะมีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าว มากับรถยนต์ ตู้โดยสารส่วนบุคคล เพื่อไปส่งที่จังหวัดชุมพร เพื่อเดินทางต่อไปยังภาคใต้ปลายทางประเทศมาเลเซีย จึงได้นำรถไปจอดเพื่อเตรียมสกัดจับกุมอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม หลัก กม.398 ขาล่องใต้ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนกระทั่งพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮฮ 2614 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมามีท่าทางพิรุธ จึงได้ส่งสัญญาณให้รถตู้คันดังกล่าวจอดข้างทางเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจสอบพบ นายจักรพงศ์ กลโคกกรวด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานครเป็นผู้ขับขี่ พบผู้โดยสารชาวเมียนมานั่งโดยสารมาภายในรถยนต์ตู้ฯ คันดังกล่าว จำนวน 23 คน เป็น ชาย 18 รายและหญิง 5 ราย ไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมด ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนจะนำส่ง พงส.สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แรงงานทั้งหมดเป็นชาวเมียนม่าร์ เดินทางมาจากยะไข่, เมียวดี และ เมาะลำใย โดยหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยแรงงานเหล่านี้เสียต่าใช้จ่ายในการหลบหนีเข้าเมืองสูงถึงรายละ 47,000 บาท โดยมีการจ่ายค่านายหน้าแล้วครึ่งหนึ่งส่วนที่เหลือจะมีการชำระเมื่อถึงยังปลายทาง โดยจะมีการเปลี่ยนรถเป็นช่วงๆ เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ นายจักรพงศ์ คนขับรถตู้เปิดเผยว่า ปกติตนวิ่งรถตู้รับจ้างอยู่กรุงเทพฯ แต่ได้มีนายหน้าชาวเมียนม่าร์ ชื่อหม่องเอติดต่องานให้มารับคนที่ประจวบฯ เพื่อไปส่งยังจังหวัดชุมพร ในราคาหัวละ 1,000 บาท โดยจ่ายมัดจำมาแล้ว 10,000 บาท ส่วนที่เหลือทางนายหน้าที่ปลายทางจะชำระให้เมื่อนำส่งแรงงานถึงจังหวัดชุมพรเป็นที่เรียบร้อย โดยเมื่อช่วงเช้าตนได้ไปรับแรงงานชุดนี้ มาจากบริเวณริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ บริเวณเลยจากวัดหนองหิน ประมาณ หลัก กม.318 ต.คลองวาฬ อ.เมือง โดยเมื่อจอดยังจุดนัดหมายแรงงานทั้งหมดได้ออกมาจากป่าข้างทางวิ่งขึ้นรถ ก่อนจะวิ่งมาตามถนนเพชรเกษม และถูกตำรวจทางหลวงเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น