ปราจีนบุรี – ระวังภัย! ช้างป่าทับลานมรดกโลกเตะลุงหวิดดับคาสวน

ปราจีนบุรี – ระวังภัย! ช้างป่าทับลานมรดกโลกเตะลุงหวิดดับคาสวน

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

             วันนี้ 7 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งมีช้างป่าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีทำร้ายชาวบ้านหมู่ 3 บ้านทุ่งแฝก ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนสลบคาเท้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ แกล้งตายเพื่อเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ทราบชื่อลุงทองบุตร ชัยเฉลิม อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกช้างทำร้ายที่ใบหน้าเย็บ-เตะที่สะโพกขาวเป็นแผล ที่ใบหน้า คิ้วขวา แก้มซ้าย คาง เย็บ 17เข็ม ลุงทองบุตรเล่าว่า เมื่อวานนี้ 6 มิย.ขณะออกไปสวนก่อนกลับบ้านเวลา17.00 น.ได้เห็นช้างป่า อยู่ที่จอมปลวกและได้เดินตามทางมา เพื่อที่จะหนีช้างป่าตัวดังกล่าว ทันใดนั้นช้างป่าวิ่งตามหลังมา จึงเอาตัวรอดแต่ช้างวิ่งมาทัน และใช้เท้าเตะที่ด้านหลังบริเวณสะโพกด้านซ้ายอย่างแรงเต็มที่ และล้มลงไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีปรากฏว่าเห็นช้างกำลังใช้งวงคลำอยู่ที่บริเวณหน้าท้องของตนเอง

          จากนั้นนอนหลับตาอยู่ครู่หนึ่งคิดว่าอย่างไรก็ต้องถูกช้างทำร้ายตายแน่ ขณะที่ช้างป่าหันหลังให้ จึงค่อยๆพาร่างอันบอบช้ำใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดคลานหนีออกจากจุดเกิดเหตุเอาตัวรอด พาร่างอันบอบช้ำไปหลบช้างอยู่ในคูน้ำเล็กๆซึ่งห่างจากจุดที่ช้างทำร้ายจมกองเลือด 10 เมตร จนปลอดภัยได้พาตัวเองเดินลัดเลาะชายป่าเพื่อขอความช่วยเหลือจากลูกชาย คิดว่าลูกชายน่าจะอยู่ที่สวนและได้พยายามรวบรวมกำลังเรียกให้ลูกชายช่วยเหลือ ขณะที่นายอดิศักดิ์ ชัยเฉลิม (ลูกชาย) ออกตามหาพ่อเมื่อเวลาเกือบสองทุ่มและได้ยินเสียงจึงตะโกนบอกให้พ่อส่งเสียงให้รู้ว่าอยู่บริเวณใดต่อมาส่องไฟฉายเห็นพ่อ พยุงร่างอันโชคเลือดริมสวนมันสำปะหลังทันทีที่เห็นพ่อรู้สึกใจหายสงสารพ่อมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้อุทยานฯจัดการนำช้างป่าออกจากหมู่บ้านเร่งด่วนด้วย เพราะช้างป่าได้มาหากินถึงในบ้านประชาชนแทบทุกวัน มีทั้งขโมยข้าวเปลือก ขโมยขาวในหม้อ บุกสวนผลไม้ นาข้าว ขณะที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจากหน่วยป้องกันรักษาป่าวังมืด นำกำลังมาเฝ้าระวังและติดตามผลักดันช้างป่าออกจากเขตบ้านเรือนประชาชนแล้ว ขณะที่นายชัยพร ชนะโรค ผญบ.ทุ่งฝก กล่าวว่า ปัญหาช้างป่ากับคนมีมานานแล้ว โดยเฉพาะชางป่าสีดอละมุด (หางด้วน) ตัวนี้ ที่คุ้นผู้คน มักออกจากป่าอุทยานฯ ราว 2-3 ปีที่ผ่านมา ชอบบุกออกมาหินอาหารตามครัว –บ้านเรือนของชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุใกล้ถนนสาย 304 นาดี – ปักธงชัย ห่างถนนประมาณ 400 – 500 เมตรเศษ โดยเจ้าละมุดเพิ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยน ดุร้ายเริ่มทำร้ายคนในครั้งนี้ ได้มีการประสานเอขอการเยียวยาต่อไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีชางป่าอีกหลายตัวที่ออกนอกเขตอุทยานฯ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!