สระบุรี-เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 5 ภาค รวมตัวประชุมหารือหลังได้รับความเดือดร้อนราคาน้ำนมดิบ

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

           เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ รวม 5 ภาค รวมตัวประชุมหารือหลังได้รับความเดือดร้อนราคาน้ำนมดิบ คงตัวไม่ขยับ ขณะที่ผ่านมาเกษตรกรบางรายสู้ไม่ไหวขายวัวเลิกเลี้ยง ไป จึงเสนอขอราคาน้ำนมดิบจาก กก.ละ 19 บาท เพิ่มขึ้น อีก 3 รอผล 28 นี้

            วันที่ 7 มิ.ย.65 ที่ ห้องประชุม ศูนย์ฝึกอบรมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยเดนมารค์ อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมแห่งประเทศไทย จำนวน 100 คน โดยมีประธานของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม จาก 5 ภาค ทั่วประเทศไทย ได้แก่ ภาคอีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออก ต่างได้รับความเดือดร้อนในเรื่องขอราคาน้ำนมดิบ จากราคาเดิม กก.ละ 19 บาท มานาน ร่วม 8 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการตกลงขอขึ้นกันมานาน และมีการยื่นหนังสือถึงกระทรวงผู้รับผิดชอบเรื่องขอขยับราคาน้ำนมดิบขึ้น เพราะว่า ปัจจุบันที่ผ่านมาของแพง หัวอาหารแพง และอีกหลายอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงโคนมที่ไม่สมดุล แต่ว่าเรื่องดังกล่าวได้เงียบหายไปและไม่มีการตอบรับกลับมาถึงตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพระราชทาน จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทางเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้รอคำตอบมาร่วม 8 ปี ว่าจะเข้าช่วยเหลือเยียวยากับเกษตรการผู้เลี้ยงโคนมได้อย่างไรเพื่อที่จะให้มีความอยู่รอดในการเลี้ยงโคนมพระราชทาน แต่แล้วเงียบหายไปอย่างสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน เกษตรกร สหกรณ์บางรายขายกิจการเลิกเลี้ยงไปแล้วก็มี ยังคงเหลือบางรายต้องทนสู้ในวิถีการเลี้ยงโคนมเพื่อรอคำตอบ จนล่าสุดต่างรอไม่ไหวเพราะขาดทุน จากค่าใช้จ่ายอาหาร ค่ายาแพงขึ้น แต่นมถูกลง จึงมารวมตัวกันประชุมหาข้อสรุปพร้อมทำหนังสือถึงต้นสังกัดรัฐมนตรีในกระทรวงวันนี้

            ทางด้าน นาย วินนา ศรีสงคราม ประธานชุมนุมภาคตะวันออกและภาคอีสานใต้ และรองประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้เรามีการนัดหมายกัน ทั้งเกษตรกรและชุมนุมทุกภาค ทั้ง 5 ภาค ในประเทศไทย เนื่องจากอาชีพการเลี้ยงโคนมนั้น มีปัญหามาหลายปีแล้ว ราคาน้ำนมดิบ 6-7 ปี ไม่เคยปรับราคาให้กับพวกเรา ซึ่งวันนี้ต้นทุนการผลิต การเลี้ยงโคนมสูงขึ้น อย่างเห็นได้ชัด จะเห็นได้ว่าราคาวัตถุดิบและอาหารสัตว์ ในจำนวน 6-7 ปี เนี่ย มีการปรับราคาขึ้นถึง 27 ครั้ง แต่ราคาน้ำนมดิบของเกษตรไม่ได้ปรับ วัตถุดิบอาหารสัตว์มีการปรับขึ้นบางตัวเกิน 100 % อย่างถั่วเหลือก็ดี กากปาล์มก็ดี มันสำปะหลังและข้าวโพด ซึ่งพูดตามความเป็นจริงแล้ว อาชีพการเลี้ยงโคนม เราไม่เคยเรียกร้องอะไร พึ่งมาเรียกร้องในวันนี้ เพราะเราอยู่ไม่ได้จริงๆ ในวันนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ ขายวัวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนสูงเลี้ยงโคนมต่อไปไม่ได้ รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย วันนี้เราได้รวมตัวกันทั้ง 5 ภาค และมีสหกรณ์มาร่วมประชุมด้วย 100 กว่าสหกรณ์ ข้อสรุปในการประชุมหลักๆ เราจะทำหนังสือผ่านไปที่ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย ส่งให้กับท่านปลัดกระทรวงซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องในฐานะเป็นประธานวิซบอร์ด จากนั้นมาวันที่ 28 มีมติในการประชุมวิซบอร์ด เราจะเข้าไปรอการประชุมว่า รัฐบาลจะปรับราคาน้ำนมดิบให้กับพวกเราหรือไม่ โดยใช้คนประมาณ 100 คน ภาคละ 20 คน ในที่ประชุมเรามีมติชัดเจน และเราก็ไปตามนั้นจริงๆ ต้องขอย้อนอดีตนิดนึงว่า ทางชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทยและชุมนุม 5 ภาค เราได้ยื่นหนังสือไปหลายครั้งแล้วกับท่านนายกรัฐมนตรี และท่านปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่าน ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ท่านก็รับหนังสือ และก็กราบเรียนท่านนายกแล้ว ท่านนายกก็รับทราบแล้ว แต่ตอนนี้ที่ล่าช้า อยู่ที่หน่วยงานราชการต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ความชัดเจนอยู่ในวันที่ 28 ถ้าไม่มีการปรับราคาน้ำนมดิบให้แก่พี่น้องชาวเกษตรกร ซึ่งมีต้นทุนสูงจริง โดยสำนักงานเศรษฐกิจก็รู้ดี หน่วยงานรัฐรู้ดีทั้งหมด หลังจากวันที่ 28 ถ้าไม่ปรับ ตนไม่แน่ใจว่าจะมีการรวมตัวอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น อาจจะต้องปิดถนนหรือเทนม เพื่อให้รัฐบาลช่วยเหลือ แต่ถ้าวันที่ 28 ประกาศขึ้นราคาน้ำนมดิบให้เรา โลละ 3 บาท ทุกอย่างก็จบ เราก็พร้อมเพราะต้นทุนเราสูงขึ้น ถ้าต่ำกว่า 3 บาท ก็ทำให้เราไม่คุ้มกับต้นทุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงโคนม นี่คือข้อสรุป วันนี้ในฐานะที่ตนเป็นประธานชุมนุมภาคตะวันออก เหนือ อีสาน ใต้ และมีประธานทั้งหมด 5 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคตะวันออก รวมทั้งท่านประธานชุมนุมของไทยเดนมาร์ค วันนี้รวมตัวกันทั้งประเทศ ทุกวันนี้วัวตายเป็นรายวันเลย นี่คือข้อเท็จจริง