นนทบุรี-สาวอ้างเป็นนายหน้าขายที่ดินบริษัทใหญ่ หลอกแม่ค้าข้าวแกงร่วมลงทุนสูญเงินเกือบ 7 แสนบาท

นนทบุรี-สาวอ้างเป็นนายหน้าขายที่ดินบริษัทใหญ่ หลอกแม่ค้าข้าวแกงร่วมลงทุนสูญเงินเกือบ 7 แสนบาท

ภาพ/ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ 

สาวอ้างเป็นนายหน้าขายที่ดินบริษัทใหญ่ หลอกแม่ค้าข้าวแกงร่วมลงทุนสูญเงินเกือบ 7 แสนบาท

              เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานทนายเกียรติคุณ ต้นยาง ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  นางจิรา ฮาลุชกา อายุ 53 ปี เดินทางเข้าพบทนายเกียรติคุณ ต้นยาง หลังจากถูก นางสา ยืมเงินไปเกือบ 700,000 บาท ไปแล้วไม่เอาเงินมาคืน นางจิรา ฮาลุชกา (ผู้เสียหายเล่าว่า เมือ 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ตนเปิดร้านขายข้าวแกง ซื่อร้านล่องใต้ ที่ตลาดเมืองใหม่สมบัติบุรี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้มี ผู้หญิงซื่อนางสา อายุ 54 ปี ได้เข้ามานั่งกินข้าวที่ร้านของตน ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้พูดคุยกัน ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็ได้มานั่งกินข้าวในร้านอยู่หลายครั้ง ต่อมา นางสา (คู่กรณี) ซึ่งนางสา ได้บอกกับตนว่า เป็นนายหน้าขายที่ดินให้กับบริษัทกระทิงแดง มูลค่ากว่า 1000 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดิน 500 กว่าไร่ และได้ขอยืมเงินตนไปเดินเรื่องซึ่งนางสา ได้บอกกับตนว่า ถ้าขายได้จะได้ค่านายน้า 3% และจะแบ่งกับตนคนละครึ่ง โดยอ้างถึงผู้หลังผู้ใหญ่คนใหญ่คนโตคุณหญิงคุณนายเพื่อให้ตนหลงเชื่อ ซึ่งตนก็พอมีเงินอยู่บ้างตนก็ให้กับนางสาไป เป็นเงินสด จำนวนหนึ่ง ต่อมานางสา ก็ได้โทรมาหาตนบอกจะเอาเงินไปเดินเรื่องที่ดินอีกตนก็ให้ไปหลายครั้งจนเงินสดของตนหมด และตนก็ได้ไปยืมเงินเพื่อนมาให้กับนาง สา อีก 2.5 แสนบาท แต่ก็ยังไม่พอตนก็ไปยืมเงินเพื่อนอีกคนมาอีก 50,000 บาท แต่ นางสา ก็ยังไม่พอบอกขายที่ยังไม่ได้ซึ่งตนก็อยากได้เงินที่นางสายืมไปกับคืนมา ในช่วงนั้นตนคิดว่าอยากได้เงินคืนอยางเดียวเอาเงินให้นางสาไปเพื่อที่จะเดินเรื่องขายที่ให้จบจะได้เงินคืน แต่ก็ไม่คืนชักที และนางสาก็ได้มายืมเงินกับตนอยู่เลื่อยตนไม่มีเงินสดที่จะให้ ไหนจะค่าซื้อของสดมาทำอาหารขายในแต่ละวันไหนจะค่าเช่าร้านค่าลูกน้องค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือน ในเมื่อตนไม่มีเงินสดให้ตนก็เลยเอาจำพวกสร้อยคอทองคำแหวนทอง แหวนเพชรที่ต้นชื้อเก็บสะสมมาเกือบทั้งชีวิต รวมแล้ว 43 รายการ ได้ให้นางสาเอาไปจำนำ เพื่อที่จะเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินเรื่องขายที่ ต่อมาชักหนักขึ้นทุกวันจนตนไม่เหลืออะไรแล้วนางสาก็ไม่มีเงินที่จะคืนให้ตนเลยมาคิดได้ที่หลังว่าตนคงโดนเพราะเวลาที่ตนโทรหารนางสา ก็พลัดวันไปเลย ส่วนเงินที่นางสา ยืมตนไป รวมทั้งของที่เอาไปจำนำ ตกอยู่ประมาณเกือบ 700,000 บาท ทุกวันนี้ ตนเหลือแต่ตั๋วจำนำ และกล่อง ที่ใส่เครื่องเพชร เอาไว้ดูต่างหน้า ส่วนที่เหลือเล็กๆน้อยๆที่หลงเหลืออยู่ทุกวันนี้ตนเครียดมากเริ่มหาทางออกไม่ได้ จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาเข้าพบ ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง

             ทางด้าน ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง กล่าวว่า จากกรณีเบื้องต้นได้สอบถามทางผู้เสียหาย ได้ความเบื้องต้นมาว่าเกิดจากการหลอกลวง คือการเอาข้อความอันเป็นเท็จมาหลอกลวงและได้เป็นทรัพย์สินไปประมาน 600,000 – 700,000 บาท ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ที่เป็นทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง ให้เค้าไปแล้วเค้าก็เอาไปจำนำ และได้เอาตั๋วจำนำมาให้ไว้หรือว่าเป็นการโอนเงินสด คือหลอกลวงว่าจะไปติดต่อธุรกิจซื้อขายที่ดินแล้วก็ต้องมีเงินวางมัดจำเงินค่าใช้จ่าย ถ้าได้ตรงนี้ไปแล้วจากการซื้อขายที่ดิน 3,000 ล้านบาท 3% ก็คือ 30 ล้านบาท เนี่ยจะแบ่งเงินคนละครึ่ง เสียเงินประมาน 600,000 – 700,000 บาท ก็จะได้เงินคืนมา 15 ล้านบาท ทางผู้เสียหายก็เกิดความโลภ ประกอบกับความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะว่าเป็นคนใต้ด้วยกัน มาพูดภาษาเดียวกัน ทางผู้เสียหายก็หลงเชื่อ จึงได้มอบทรัพย์สินสิ่งของไป เบื้องต้นเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ยังไงก็ถ้ารู้ตัวว่ากระทำความผิดดังกล่าวก็ให้รีบมาเคลียกับทางคู่กรณีว่าเรื่องนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ ตอนนี้ผมก็พยายามรวบรวมหลักฐานอีก 1 – 2 วัน ถ้ายังไม่ติดต่อกลับมายังไงหรือว่าทางผมเอกสารพร้อมผมก็จะพาไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ในข้อหาฉ้อโกงครับ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!