ปราจีนบุรี – คนยากไร้ กว่า 3,000 คน ยืนตากแดดคิวยาวรอรับแจกข้าวสารงานทิ้งกระจาด
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ฉลองรัตน์ ทองโบราณ
สะท้อนพิษเศรษฐกิจ – ว่างเว้นทิ้งกระจาด 2 ปี พบคนยากไร้ กว่า 3,000 คน ยืนตากแดดคิวยาว รอรับแจกข้าวสารงานทิ้งกระจาดของมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี)
วันนี้ 20 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า มูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) , เทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ได้จัดงาน พิธีทิ้งกระจาดหรือซิโกวประจำปี 2565 ขึ้น ในการบำเพ็ญกุศลอุทิศแก่บรรพบุรุษ วิญญาณไร้ญาติเร่ร่อน และ บริจาคทานแก่ผู้ยากไร้ โดยทางมูลนิธิฯได้จัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศลทางสงฆ์ทักษิณานุประทาน –เซ่นไหว้บรรพบุรุษ อุทิศให้วิญญาณผู้ไร้ญาติผีเร่ร่อน และ แจกข้าวสารผู้ยากไร้ตามลำดับตามประเพณีชาวไทยเชื้อสายจีน รวม จำนวน 3,000 ถุง ให้กับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอกบินทร์บุรี บรรยากาศพบประชาชน จำนวนมากกว่า 3,000 คน มาเข้าคิว รอจับบัตรคิวจับการให้ทาน โดยจัดให้รอ ด้านหน้ามูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) โดยทางมูลนิธิฯได้เน้นมาตราการป้องกันโควิด -19 ตามลำดับอย่างเป็นระเบียบ แบ่งตามลำดับคิวการให้ทาน หรือบริจาค เริ่มจากเด็ก และเยาวชน , คนพิการ, คนยากไร้ -คนชรา ให้ได้รับบริจาคทาน ทุก ๆแม้ท่ามกลางแดดร้อน แต่ผู้ คนไม่ถอยโดยมีนายสุรพันธ์ โตศิริ ประธานกรรมการมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย( อ.กบินทร์บุรี) ได้บอกว่าทางมูลนิธิฯได้บริจาคข้าวสาร แก่คนยากำไร้ จำนวน 1,000 ถุง และ นาย วัลลภ มานะธัญญา ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัทบางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัดกับบริษัท บีเพาเวอร์ แฟคตอรี่ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัดบริจาคข้าวสาร 2,000 ถุง รวมเป็น 3,000 ถุงและมีผู้ใหญ่ใจดีได้บริจาคของเล่นแจกให้กับเด็กๆ ที่มารับข้าวสารด้วย ส่วนเด็กเล็กที่คุณแม่หรือผู้ปกครองอุ้มมาจะได้รับเงินคนละ 50 บาท ซึ่งพิธีเทกระจาดของที่นี่ได้เว้นว่างมา 2 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง จึงได้จัดขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ และเอกชนที่ใจบุญ ร่วมบริจาคมามอบให้ดังกล่าว และ ประชาชนที่มารับข้าวสารในวันนี้ต่างรู้สึกดีใจ ที่ทางมูลนิธิได้จัดให้มีพิธีเทกระจาดในปีนี้ ที่เป็นยุคเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงจากโควิด -19 และ พิษเศรษฐกิจจากผลสงครามรัสเซีย –ยูเครน อันเป็นการแสดงน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลไม่ทอดทิ้งกัน
