ตาก-อ.พบพระ เตรียมรับมือพายุใต้ฝุ่น “โนรู” ชาวบ้านเร่งซ่อมแซมถนน

ภาพ/ข่าว:ชวลิต วิกุลชัยกิจ

               อ.พบพระ เตรียมรับมือพายุใต้ฝุ่น “โนรู” ชาวบ้านเร่งซ่อมแซมถนน หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน

             เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 นายสงัดวินนันผู้ใหญ่บ้านรวมไทยพัฒนา 8 หมู่ที่ 6 ตำบลไทยพัฒนาอำเภอพบพระจังหวัดตาก พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสมาชิกอบต. คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านรวมไทยพัฒนา 8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา ร่วมด้วย ช่วยกันซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายสืบเนื่องมาจาก 2-3 วันที่ผ่านมาฝนตกติดต่อกันทำให้น้ำท่วมขังเป็นหลุมเป็นบ่อการเดินสัญจรไปมาของพี่น้องประชาชน ไม่สะดวกเท่าที่ควร นายสงัด วินนัน ผู้ใหญ่บ้านรวมไทยพัฒนา 8 กล่าวว่า วันนี้น้องชาวบ้านและกรรมการหมู่บ้านผู้นำหมู่บ้านได้ร่วมกันซ่อมแซมถนนทางเข้าหมู่บ้านและในบริเวณบ้าน สืบเนื่องมาจากถนนในหมู่บ้านได้สร้างมากว่า 20 ปีแล้วทำให้เกิดชำรุดเสียหาย ประกอบกับ 3-4 วันที่ผ่านมามีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำกัดเซาะ ถนนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านได้ประชุมปรึกษาหารือขอรับการสนับสนุน หินคลุก พร้อมทั้งอุปกรณ์ในการอัดบท จากองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา เพื่อมาทำการซ่อมแซมถนนที่เสียหายดังกล่าวเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาไม่สะดวก นายหิรัญ ฉิมเสือ สมาชิก อบต.บ้านรวมไทยพัฒนา8 กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านร่วมกันซ่อมถนนในหมู่บ้าน ซึ่ง 3-4 วันที่ผ่านมาฝนตกติดต่อกันทำให้ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านได้รวมตัวกันซ่อมแซมถนนโดยรับการ สนับสนุนหินคลุกกาดองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา พร้อมทั้งอุปกรณ์อัดบด ซ่อมถนน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นการชั่วคราว ตนเองและผู้ใหญ่บ้านคณะกรรมการหมู่บ้านจะของบประมาณประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สมาชิกอบต.กล่าว

              ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้นำหมู่บ้านผู้อาวุโส ใด้ความว่าถนนโครงการดังกล่าวนี้ ถนนเส้นดังกล่าวก่อสร้างมา 20 กว่าปีแล้ว นานมาก ถนนชำรุด ชาวบ้านได้รวมตัวกันซ่อมแซม โดยขอวัสดุได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา ซ่อมแซมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปก่อน อีกส่วนหนึ่งทางหมู่บ้าน คณะกลางหมู่บ้านสมาชิกอบตผู้ใหญ่บ้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันจะทำเครื่องของงบประมาณก่อสร้างไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และวันที่ 28 กันยายน 2565 นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ เตรียมรับมือพายุใต้ฝุ่น “โนรู” ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนให้กับ นายกเทศมนตรีตำบลพบพระ, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง, กำนันทุกตำบล และผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ดำเนินการ ดังนี้ แจ้งเตือนประชาชนติดตามสภาวะอากาศและข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24ชั่วโมง ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชน อ้างถึง วิทยุ ด่วนที่สุด ที่ ตก ㆍ818.3/ว336ลว.27 ก.ย.2565 เรื่อง แจ้งเตือน พยากรณ์ อากาศพายุใต้ฝุ่น “โนรู” ด้วยมีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 12(258/2565 ลงวันที่ 28กันยายน 2565 เรื่อง พายุใต้ฝุ่น”โนรู” ได้เคลื่อขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ70 กิโลเมตรทางตะวันออกแขวงเซกอง ประเทศลาว หรือที่ละติจูด 15.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.1องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยเร็ว ลมประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนเคลื่อนผ่านประเทศลาว ตอนล่างเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทยบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ในวันที่ 29 กันยายน 2565โดยพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังกำลัง แรงตามลำดับ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้าง แรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชน ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเขิงเขาใกลัทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย อำเภอพบพระ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบ จากสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น จึงให้นายกเทศมนตรีตำบลพบพระ, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง, กำนันทุกตำบล และผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ดำเนินการ ดังนี้
1. แจ้งเตือนประชาชนติดตามสภาวะอากาศและข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24ชั่วโมง
ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น สื่อสังคมออนไลน์
วิทยุชุมชน ผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เป็นต้น
3. วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สภาวะอากาศและปัจจัยสภาพ
ความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมพร้อมทรัพยากร
เครื่องมีออุปกรณ์และแผนเผชิญเหตุ โดยให้ความสำคัญในการแจ้งเตือนสามารถพร้อมให้เข้าช่วยเหลือประชาชน
ที่ได้รับผลกระทบ
3. หากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์ให้อำเภอพบพระ ทราบทันที