ชัยนาท-เขื่อนเจ้าพระยาปักธงแดงด้าน กอนช. เตือนเตรียมระบายน้ำผ่านเขื่อนไม่เกิน 3,000 ลบ.ม

ชัยนาท-เขื่อนเจ้าพระยาปักธงแดงด้าน กอนช. เตือนเตรียมระบายน้ำผ่านเขื่อนไม่เกิน 3,000 ลบ.ม

ภาพ-ข่าว:ธนพนธ์ แสงทอง

              วันนี้ 7 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงหน้าเป็นห่วงขณะระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้มีการปักธงแดงแจ้งเตือนสถานการณ์วิกฤติ นอกจากนี้ทางด้าน กอนช.ได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำหลังจากเขื่อนเจ้าพระยารับมวลน้ำจากด้านเหนือเขื่อนเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำในอัตราไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
               โดยทางด้าน นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลาขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ฉบับที่49/2565 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีน้ำหลากจากทางตอนเหนือไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยที่ สถานีวัดน้ำC.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีเกณฑ์ 3,077 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยกรมชลประทานได้พิจารณารับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกอย่างเต็มศักยภาพคลองที่สามารถรองรับน้ำได้ ปัจจุบันระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีระดับอยู่ที่ 17.64 เมตร/รทก. ซึ่งสูงกว่าระดับเก็บกัก 1.14 เมตร/รทก. เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบาลระบายน้ำและตัวเขื่อนเจ้าพระยา
                 กรมชลประทานจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ 17.60 เมตร/รทก. ซึ่งจะส่งผลทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรามากกว่า 2,900-3,000 ลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 ประกอบกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพมหานครฯ ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ โดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.90-2.20 เมตร/รทก. ในช่วงวันที่ 8-13 ตุลาคม 2565 ซึ่งจะส่งผลทำให้ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี และ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.ป่าโมก และ อ.ไชโย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.10 – 0.15 เมตร บริเวณตั้งแต่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.15 – 0.30 เมตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวจึงของให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
                สำหรับปัจจุบัน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 3,082 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.63 เมตร/รทก. มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.77 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,872 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,689 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!