สาวใหญ่ป่วยหนัก วอน ส.ส.ขวัญเลิศ ช่วยตามหาลูกชายและลูกสาวที่ไม่เจอกันมา 30 ปี
ภาพ/ข่าว:นิราช/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
สาวใหญ่ชีวิตสุดรันทด ป่วยหนัก หลายโรครุมเร้า นอนติดเตียง วอน ส.ส.ขวัญเลิศ พานิชมาท ช่วยตามหาลูกชายและลูกสาว ที่ไม่ได้พบกันมา 30 ปี หลังคลอดลูกชายแล้ว แม่ยกให้คนอื่นเลี้ยง ส่วนลูกสาวมีคนมารับไปเลี้ยง แล้วไม่เคยพบกันอีกเลย
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 นางสาวพจนารถ ทองห่อ อายุ 54 ปี ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปถึง นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามหาลูกชายและลูกสาวที่ไม่ได้พบกันมานานถึง 30 ปี หลังตัวเองเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีหลายโรครุมเร้า จึงอยากจะพบเจอลูกชายและลูกสาวก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงประสานไปยัง นายขวัญเลิศ พานิชมาท ให้รับทราบและเข้ามาตรวจสอบ หลังทราบเรื่อง นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) พร้อมด้วยทีมงานได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ ที่บ้านเช่าเลขที่ 322/75 หมู่ 8 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบว่า นางสาวพจนารถ ทองห่อ ได้นอนป่วยอยู่บนเตียงภายในบ้าน โดยพักอาศัยอยู่กับลูกสาว อายุ 18 ปี และลูกชายคนเล็ก อายุ 16 ปี โดยพบว่า นางสาวพจนารถ สภาพร่างกายซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สอบถามทราบว่าป่วยเป็นโรคหอบ ถุงลมโป่งพอง ท่อปัสสาวะอักเสบ ต้องกินยาไปตลอดชีวิต
เมื่อทราบว่าทีมงาน ส.ส.ขวัญเลิศเข้าไปหา ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ และเล่าเรื่องราวให้ทีมงานได้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนเองเป็นผู้ป่วยมีโรครุมเร้าหลายโรคทั้งถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด ปอดไม่ดีทั้งสองข้าง ท่อปัสสาวะอักเสบ ต้องกินยาตลอดชีวิต ตอนนี้มีความเดือดร้อนเรื่องของใช้ เงินไปโรงพยาบาล และอยากเจอลูกมากที่สุดในชีวิต ซึ่งตนเองอยากเจอมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่วันที่เรายกลูกชายคนที่สองให้คนอื่นไป มันเสียความรู้สึกที่เรายกลูกให้เค้าไป ที่จริงเราไม่เต็มใจยกลูกให้ไป และคิดถึงลูกตลอดมา 30 ปีเต็ม ก็เคยไปตามหาที่เทศบาลให้ช่วยค้นหาแต่ก็ไม่เจอ ส่วนคนผู้หญิงซึ่งเป็นลูกคนที่สามก็ไม่รู้ว่ามีชื่อจริงว่าอะไร รู้ว่าลูกชายชื่อเปเป้ หรือนายพรพจน์ วงษ์วิจิตร อายุ 30 ปี ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนชื่อไปหรือยัง ส่วนลูกสาวตั้งชื่อว่าน้องเก็ต แต่ไม่ทราบชื่อจริง เนื่องจากไม่เคยเจอตัว เคยเจอแต่ในห้องคลอดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวในอดีตของลูกชายคนที่สอง ที่กำลังตามหาว่า ตอนนั้นเรามีลูกคนโตอยู่แล้ว พอคลอดออกมาแม่เราก็ยกลูกให้กับป้ายงค์ที่อยู่ห้องเลือดไป เราไม่ได้เต็มใจยกลูกให้เค้าไป ซึ่งตอนนี้ป้ายงค์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนลูกสาวซึ่งเป็นลูกคนที่สามนั้น เราไปคลอดลูกแล้วนอนพักอยู่สองวันก็ได้กลับบ้าน แล้วก็เอะใจว่าทำไมเค้าไม่เอาลูกมาให้เราเสียที พอดีเพื่อนที่ไปคลอดด้วยกัน ก็ออกมารับที่โรงพยาบาล แล้วไปถามที่ห้องคลอดทราบว่ามีแม่เด็กมารับไปแล้ว เราก็เลยช็อกเดินกลับ โดยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากจะเจอลูกทั้งสองคนนี้มาก จึงอยากฝากบอกว่า แม่รักลูกมาก คิดถึงลูกที่สุด ถ้าลูกทั้งสองทราบเรื่องก็อยากให้กลับมาหาที่บ้านเช่าแห่งนี้ แต่ถ้าถูกให้ออกจากบ้านเช่าแห่งนี้ไป ก็แจ้งให้ ส.ส.ขวัญเลิศ ได้ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน ซึ่งตอนนี้ตนต้องไปหาหมอตามนัดด้วย ซึ่งที่อยากเจอลูกเพราะความรู้สึกของคนเป็นแม่ เราคลอดเค้าออกมาเราได้เห็นหน้าเค้าแป๊บเดียว ตอนนี้สายตาก็มองไม่เห็นมา 4 ปีแล้วด้วย
ด้าน นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับการติดต่อมาว่ามีคุณพจนารถ อยากพบตัว เพื่อขอให้ช่วยติดตามลูกชายและลูกสาวที่พลัดพรากกันมา 30 ปีแล้ว ซึ่งถ้าเกิดว่ามีใครรู้จัก นายพรพจน์ วงษ์วิจิตร อายุ 30 ปี เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ก็อยากให้ช่วยติดต่อมา จากการสอบถามเบื้องต้น ทางเราจะพาคุณพจนารถ ไปรักษาตัวยังสถานที่ที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธ จะขอใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายให้ได้อยู่กับลูก คือตอนนี้ถ้ามีโอกาสอยากได้กำลังใจจากลูกที่เค้าตามหาอยู่ ถ้าเกิดว่ามีท่านใดมีชื่อตามที่ได้แจ้งไป ก็ขอให้ติดต่อมาได้ที่ตนเอง จะได้เข้ามาดูแลและเยี่ยมคุณแม่ด้วยกัน ส่วนลูกสาวไม่แน่ใจในเรื่องของชื่อทราบว่าไม่รู้จักชื่อ ซึ่งเค้าแยกกันตั้งแต่คลอดลูก เนื่องจากคุณพจนารถ ไม่ได้ติดบัตรประชาชนไป จึงไปแจ้งชื่อคุณแม่ว่า นิตยา สมบุตร เมื่อประมาณกว่า 20 ปีที่ผ่านมา แต่ตนเองจะพยายามติดตามหาตัวจากข้อมูลของโรงพยาบาล จากช่วงวันเวลาหรือชื่อที่คุณพจนารถ ได้แจ้งไป ก็จะลองติดตามในเบื้องต้นให้ ซึ่งโดยสรุป เรื่องราวคุณพจนารถ ทองห่อ ได้มีบุตรทั้งสิ้น 7 คน คนโตเป็นผู้ชายมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คนที่สองและสามเป็นผู้ชายและผู้หญิงที่ตามหาอยู่ คนที่สี่เป็นผู้ชายมีครอบครัวอยู่จังหวัดสกลนคร คนที่ห้าเป็นผู้หญิง อายุ 22 ปี มีครอบครัวแล้ว คนที่หกเป็นผู้หญิงอายุ 18 ปี และคนที่เจ็ดเป็นผู้ชายอายุ 16 ปี ซึ่งคนที่ 6 และ 7 อาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้ทำงาน เนื่องจากอายุยังน้อยและไม่ได้เรียนหนังสือ ซึ่งเบื้องต้นมีหน่วยงานจากอำเภอศรีราชา เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เจ้าหน้าที่ อสม. แวะเวียนเข้ามาดูแลอยู่แล้วในปัจจุบัน