เชียงใหม่-กกต.เน้นย้ำการปฏิบัติตัวของผู้จะสมัครลงเลือกตั้ง ในช่วง 180 วันก่อนการเลือกตั้ง
ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำการปฏิบัติตัวของผู้จะสมัครลงเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ในช่วง 180 วันก่อนการเลือกตั้ง
วันนี้ (25 ต.ค.65 ) นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ว่า จากสถิติที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดของประเทศ ในกลุ่มจังหวัดที่มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน โดยการแบ่งเขตเลือกตั้งตามจำนวนประชากรในปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่จะสามารถมี ส.ส. แบบแบ่งเขตถึง 11 เขตเลือกตั้ง จากเดิม 9 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2 เขตเลือกตั้งด้วยกัน ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความสอดคล้องกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วจึงจะประกาศเขตเลือกตั้งต่อไป
สำหรับการเตรียมตัวของผู้จะสมัครลงรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง นายนพดล สุยะ ผอ.กกต.เชียงใหม่ ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องศึกษาสิ่งที่อนุญาตให้ทำ และข้อห้ามใด ๆ ซึ่งการหาเสียงจะต้องไม่ขัดต่อข้อปฏิบัติที่กำหนดเป็นนโยบายของพรรคการเมือง โดยห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น อาทิ ห้ามจัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด หรือ ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด
รวมทั้ง ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ ห้ามจัดเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด และ ไม่กระทำการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่น ในช่วง 180 วันก่อนการเลือกตั้ง นอกจากนี้ห้ามมิให้ผู้สมัครและพรรคการเมือง นำสถาบันพระมาหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
ทั้งนี้ ในห้วงที่ยังไม่มีการประกาศรับสมัครรับเลือกตั้ง จะยังไม่ทราบว่ามีผู้ใดจะลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบ้าง ดังนั้น สำนักงาน กกต.เชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่องดูแล หากพบภายหลังว่ามีการกระทำผิดของผู้ที่ลงรับสมัครเลือกตั้งดังกล่าว สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน กกต.1144 หรือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ 053 112 347-8 และแอปพลิเคชันตาสับประรด