ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ไม่มีใครเกรงใจใครกัน
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
“ในสนามเลือกตั้งก็ไม่ต้องเกรงใจกัน” เป็นวาทะกรรมทางการเมืองที่หลุดออกมาจากปากของ “อนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ภูมิใจไทยที่กำลังส่งทหารราบบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของประชาธิปัตย์อย่างหนักหน่วง ซึ่งประชาธิปัตย์มีฐานะเป็นเจ้าถิ่น เคยมี ส.ส.ในทุกจังหวัดของภาคใต้ ภาคใต้อันเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ เลือกตั้งครั้งปี 2562 ถือว่าภูมิใจไทย ประสบความสำเร็จ ยึดระนอง ยึดกระบี่ ยึดพัทลุง ยึดสตูล ยึดสงขลาได้ ถือว่าไม่ธรรมดา สร้างแรงฮึดให้พลพรรคภูมิใจไทยได้ไม่น้อย ถึงขั้นประกาศศักดาจะยึดฝั่งอันดามันทั้งหมด 6 จังหวัด ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคการเมืองที่จะประกาศยึดโน้นนี้นั้นได้ เลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่แปลกกับความพยายามในการรุกคืบมานครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยนครศรีธรรมราชส่ง “อารี ไกรนรา” ส.ส.เพื่อชาติ อดีตหัวหน้าการ์ด นปช.ลงไปทำพื้นที่ เราจึงเห็นอารีลงไปนครศรีธรรมราชถี่ยิบทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ พร้อมกำหนดการแน่นเอี๊ยด
เมื่อภูมิใจไทยรุกหนักในภาคใต้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะตีความได้ว่าเปิดศึกกับประชาธิปัตย์ เมื่อ “อนุทิน”ลั่นกลองรบ ประกาศจะยึดฝั่งอันดามัน ไม่เว้นแม้กระทั่งพังงา ถิ่นของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฝีปากอย่างคนประชาธิปัตย์จะกลัวเสียที่ไหนละ ยิ่งภูมิใจไทยกำลังเผชิญปัญหา พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ประชาธิปัตย์ออกโรงต้าน “ไม่เอากัญชาเสรี เอากัญชาทางการแพทย์” แปลความได้ว่าตั้งป้อมค่ายรบกับภูมิใจไทย โดยประชาธิปัตย์ก็จะมีจุรินทร์เป็นตัวชูโรงต้าน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และมีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ร่วมเปิดวิวาทะด้วย ส่วนภูมิใจไทยนอกจากอนุทินแล้วก็จะมี “ศุภชัย ใจสมุทร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมขย่มประชาธิปัตย์ แต่เมื่อเทียบชั้นแล้ว “จุรินทร์” ยังมีสำบัดสำนวนเหนือกว่า “อนุทิน” เช่นเดียวกันความอ่อนช้อยสำนวนของสาทิตย์ ยังอยู่เหนือความโฉ่งฉ่างของศุภชัย ยิ่งภูมิใจไทยโดยคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) มีมติฟรีโหวตสำหรับ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยิ่งสร้างความหวาดเสียว เสียวสันหลังให้ภูมิใจไทยยิ่ง โดยเฉพาะการจะปล่อยให้ ส.ส.อภิปรายเต็มที่ก่อนลงมติ ทำให้ภูมิใจไทยต้องรีบออกตัวว่า พ.ร.บ.กัญชา กัญชา ได้ผ่านมือภูมิใจไทยไปแล้ว เป็นเรื่องของสภา และวิปรัฐบาล อันเป็นการออกตัวให้ห่างจาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชง นั้นเอง ผลักให้เป็นเรื่องของสภา
ศึกสองพรรคร่วมรัฐบาลยังจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าในสนามเลือกตั้ง หรือสนามสภา ยังมี พ.ร.บ.เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ค้างอยู่ในสภาอีก 1 ฉบับ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์เห็นต่างกันเช่นกัน ภูมิใจไทยเสนอให้ปลอดดอกเบี้ย แต่ประชาธิปัตย์ยังให้คิดดอกเบี้ย เพียงแต่ลดเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ยลงมา งานนี้พลังประชารัฐ ซึ่งเป็นอีกพรรคที่มี ส.ส.ในภาคใต้ถึง 14-15 คน กำลังนั่งอยู่บนภูดูเสือกัดกัน นั่งรอดูท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือจะพอแค่นี้ ถ้าเดินหน้าต่อ จะต่อในฐานะพรรคไหน พลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ
“ลุงตู่อยู่ไหน เราอยู่นั้น” สะท้อนว่า ลุงตู่ไปพรรคไหน ส.ส.ใต้ของพลังประชารัฐจะพาเหรตกันไปพรรคนั้น ประชาธิปัตย์ถ้าตัดปัญหาภายในออกไป ตัดวงศาคณาญาติออกไป จริงจังจริงใจมากขึ้น ไม่เอาแต่พูด ลงมือทำ “ทำได้จริง ทำได้ไว” พรรคก็จะมีความแข็งแกร่ง พร้อมต่อกรกับทุกพรรค แต่ถ้ายังจะเดินหน้าถูลู่ถูกังกันไปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็ไม่ง่ายกับเป้าหมาย 35-40 ที่นั่ง ไม่ง่ายเพราะจะถูกภูมิใจไทยเจาะในบางจังหวัด จะถูกพลังประชารัฐขยายฐานออกไปอีก และจะมีรวมไทยสร้างชาติเข้ามาแจมอีก เวลาที่เหลืออยู่ไม่กี่วันก่อนถึงวันหย่อนบัตร เราจะยังได้ยินได้ฟังวาทะกรรมทางการเมืองอีกมากขุดออกมาสัปประยุทธ์กันของนักการเมือง เราประชาชนผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ก็รับฟังข้อมูลทุกฝ่ายประมวลคิด แล้วตัดสินใจก่อนเดินเข้าสู่คูหากาให้ใคร