เชียงใหม่-รมว.สาธารณสุข จับมือ ประเทศสมาชิก ร่วมยุติเอดส์พร้อมกันในปี 2573
ภาพ-ข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จับมือ ประเทศสมาชิก ร่วมยุติเอดส์พร้อมกันในปี 2573 พร้อมเรียกร้องให้ลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดการรังเกียจ ตีตรา และการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ
วันนี้ (13 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย Mrs.Winnie Byanyima (วินนี่ บียานีมา) รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและผู้อำนวยการบริหารโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ได้ร่วมกันแถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 51 (UNAIDS Programme Coordinating Board: PCB) ครั้งที่ 51 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ที่ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิก 22 ประเทศ พร้อมด้วยหน่วยงาน UN Cosponsors และ หน่วยงาน NGOs จากทุกภูมิภาคของโลก มาร่วมกันวางทิศทางการบริหารจัดการแผนงานเอดส์ของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการยุติปัญหาเอดส์ทั่วโลกภายใน ปี 2573 ตามปฏิญญาทางการเมือง เรื่อง เอชไอวีและเอดส์ ปี 2564
สำหรับประเด็นสำคัญที่มีการหารือในที่ประชุม ได้แก่ การประเมินการดำเนินงาน UNAIDS การดำเนินงานขององค์กรโดยชุมชนเป็นแกนนำ การดำเนินงาน Global Partnership เพื่อขจัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวีทุกรูปแบบ และเอชไอวีกับชายที่มีความหลากหลายและทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาเอดส์ของประเทศไทย ในเรื่องการลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ที่ประเทศไทยเข้าร่วมโครงการสานพลังเพื่อขจัดการตีตราและเลือกปฏิบัติ (Partnership for Zero Discrimination) และเรื่องการจัดบริการด้านเอดส์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน PCB ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก ลดความเหลื่อมล้ำ และขจัดการรังเกียจ ตีตรา และการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ ทั้งในชุมชน โรงเรียน สถานที่ทำงาน และสถานบริการสุขภาพ รวมทั้งจัดบริการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้มีความครอบคลุมทุกคนและเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม สอดคล้องกับแนวคิดวันเอดส์โลกปีนี้ที่ว่า “Equalize : ทำให้เท่าเทียม” เพื่อมุ่งไปสู่การยุติเอดส์พร้อมกันในปี 2573 นี้