นนทบุรี-ป้า 62 ซื้อบ้านในที่ดินวัดมานานกว่า 10 ปี ถูกเจ้าของเก่าข่มขู่ไล่ออกจากบ้าน
ภาพ-ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.65 นาย คนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผอ.สำนักพุทธนนนทบุรี, ร.ท.ชโยดม หล่าแสนเมือง หน.ชุด ชรต.102 กอ.รมน.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าช่วยเหลือ นางจงกลวรรณ มณฑา อายุ 62 ปี หลังได้รับการร้องเรียนว่าได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งซึ่งที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดแคนอก เมื่อปี 2556 โดยจ่ายค่าซื้อสิทธิ์เป็นเงิน 200,000 บาท และต้องจ่ายเงินค่าเช่ารายปีให้กับวัดปีละ 1,152 บาท มานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านที่ตนซื้อสิทธิ์มาได้ พอจะเข้าไปอยู่กลับถูกเจ้าของบ้านพาพวกมาข่มขู่จึงได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก กอ.รมน.จังหวัดนนทบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การครอบครองก็พบว่า นางจงกลวรรณฯ มีเอกสารการครอบครองสิทธิ์อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ทางวัดแคนอกได้มีการฟ้องศาลให้ผู้อยู่อาศัยเก่าย้ายออก ซึ่งศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งให้เจ้าของเก่าย้ายออก ก่อนจะพาผู้เสียหายเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 23/4 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี บ้านที่เกิดปัญหาพิพาทเพื่อทำความเข้าใจกับทั้งสองฝ่าย
นางจงกลวรรณฯ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนไม่มีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง กระทั้งเมื่อปี 2556 ลูกชายคนเล็กของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้เงินช่วยเหลือมาประมาณ 200,000 บาท ทำให้ตนต้องอยู่กับลูกชายคนโตที่ป่วยติดเตียงเพียงลำพัง 2 คน ก็มีคนที่รู้จักสงสารตนกับลูกมาบอกว่าจะขายสิทธิ์บ้านหลังดังกล่าวให้ในราคา 200,000 บาท ตนจึงเบิกเงินทั้งหมดก้อนสุดท้ายมาจ่ายค่าซื้อสิทธิ์บ้านดังกล่าว และทำสัญญาเช่าที่กับทางวัดแคนอกถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างจนถึงปัจจุบันนี้ แต่พอตนกับลูกชายย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านได้ 3 วัน ก็ถูกญาติของเจ้าของบ้านคนเดิมพาพวกบุกมาที่บ้านข่มขู่ให้ตนย้ายออกไป ทั้งด่าทอ เอาขวดปาใส่บ้าน จนตนกับลูกชายทนอยู่ไม่ได้ต้องย้ายหนีออกไปหาบ้านเช่าที่อยู่ใกล้ๆกันพักอาศัยแทนเพื่อความปลอดภัย แล้วทางเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่แทนจนทุกวันนี้ ซึ่งตนก็แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทางวัดรับทราบจนทางวัดดำเนินการฟ้องขับไล่แทนตนจนศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมปฎิบัติตามจึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กอ.รมน.จ.นนทบุรี ให้เข้ามาช่วยเหลือ
ด้านป้าเปี๊ยก ผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านแล้วไม่ยอมย้ายออก กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะทางเจ้าหน้าที่ของวัดทำสัญญาไม่โปร่งใส เดิมทีกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้เป็นของพ่อตน แต่ต่อมาพ่อได้เสียชีวิตลงทางน้องชายได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่วัดให้เปลี่ยนสัญญาเช่าจากชื่อของพ่อเป็นของน้องชาย ก่อนที่น้องชายจะขายสิทธิ์ไปให้กับคนอื่น โดยที่ไม่ได้บอกกับพี่น้องคนอื่นๆพอพวกตนมาทราบเรื่องทางวัดก็บอกว่าพวกตนไม่ได้ส่งค่าเช่าที่เกิน 3 ปีจนสัญญาขาดไปแล้ว พวกตนจึงไม่ยอมย้ายออกจากบ้านเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม แต่ยืนยันว่าหากศาลมีคำสั่งจนถึงที่สุดก็พร้อมจะปฎิบัติตามทันที
ร.ท.ชโยดม กล่าวว่าวันนี้เป็นการเข้ามาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นหลังได้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านางจงกลวรรณ มีเอกสารสิทธิ์การครอบครองถูกต้องทุกอย่างแต่จากการพูดคุยกับทางคู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ หลังจากนี้จะพานางจงกลวรรณเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ดำเนินคดีต่อไป