ประจวบคีรีขันธ์-ท่าเรือประจวบ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการขอเข้าเทียบท่าของเรือหลวงสุโขทัย
ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
นายธนาวุธ ธนะไชย นายท่า บ.ท่าเรือประจวบ จำกัด แจงกรณีมีสื่อมวลชนบางสำนักเสนอข่าว ว่า ทางบริษัทไม่อนุมัติให้เรือหลวงสุโขทัย เข้าจอดเทียบท่าในวันเกิดเหตุ จนต้องกลับไปที่สัตหีบ และเกิดอัปปางกลางทะเลจนมีผู้สูญหาย และเสียชีวิต ว่า ในวันเกิดเหตุคลื่นลมแรง ทางต้นเรือของเรือหลวงสุโขทัยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของบริษัททางไลน์ และขอให้ถ่ายคลิปสภาพคลื่นลมบริเวณท่าเรือให้เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ได้ถ่ายคลิปและส่งไปให้และให้ทางเรือตัดสินใจเอง จากนั้นต้นเรือก็ได้แจ้งกลับมาว่าเรือหลวงสุโขทัยจะไม่เข้าเทียบท่าแล้ว จะกลับไปที่สัตหีบแทน
ตามที่ปรากฎข่าวในสื่อออนไลน์ อ้างแหล่งข่าวผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตจากกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง (ร.ท.สายัณต์ กิจเกียจ) ระบุว่า “ผู้การขอเข้าจอดที่ท่าเรือบางสะพาน แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องแล่นเรือต่อ ผนังเรือเริ่มฉีกขาดมากขึ้นจากการที่โดนคลื่น มวลน้ำจำนวนมากเข้าตัวเรือ…” โพสต์ดังกล่าวทำให้เกิดการแสดงความเห็นเชิงลบต่อบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด และกลุ่มสหวิริยานั้น บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ขอชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเท็จและความเห็นจากโพสต์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ข้อเท็จจริงในกรณีนี้คือ แผนกบริการท่าฯ ของบริษัทได้รับการประสานจากต้นเรือของเรือหลวงสุโขทัย ขอให้ถ่ายภาพสภาพคลื่นลมในท่าเรือไปให้ ทันทีที่ได้รับการประสานงาน และพูดคุยทางโทรศัพท์ผ่านทางไลน์ เจ้าหน้าที่รีบประสานและตอบกลับไปโดยมีความยินดีที่จะให้เข้ามาถ่ายภาพตามคำร้องขอ อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จากเรือหลวงสุโขทัยได้แจ้งกลับมาว่าไม่เข้ามาที่ท่าเรือประจวบแล้ว (ตามภาพไลน์ที่ปรากฎ) และเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ขอบคุณกับท่าเรือประจวบด้วย
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2565 คือ
– เวลา 09.50 น. น.ท.จตุพร ทัพเรือภาค1 ขอนำร.ล.กระบุรี ร.ล สุโขทัย เข้าเทียบท่า เพื่อส่งทหารจำนวนหนึ่งขึ้นรถบัสขนส่งไป จ.ชุมพร เนื่องจากบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด มีท่าเรือรองรับ
– เวลา 11.53 น. ผู้บัญชาการ ร.ล กระบุรี แจ้งขอเข้าท่าเทียบเรือ
– เวลา 12.11 น. ต้นเรือ ร.ล สุโขทัยติดต่อแผนกบริการท่าฯ ขอให้ถ่ายภาพสภาพคลื่นลมในท่าเรือไปให้ เจ้าหน้าที่แผนกบริการท่าได้ดำเนินการถ่ายคลิปวิดีโอสั้นส่งไปให้ รวมถึงแนะนำให้เรือทิ้งสมอในพื้นที่จอดเรือ (Basin) ได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ต้นเรือได้รับคลิปวิดีโอและพิจารณาสถาพคลื่นลมจากวิดีโอแล้ว ได้แจ้งกลับมายังเจ้าหน้าที่บริการท่าว่า ไม่ขอเข้าเทียบและจะเดินทางกลับไปยังสัตหีบ (โปรดดูภาพประกอบ)
– เวลา 16.00 น. ร.ล กระบุรีแจ้งทางวิทยุขอเข้าเทียบท่า และเทียบท่าเสร็จสิ้นเวลา 17.00 น.
– เวลา 16.46 น. ห.น.แผนกบริการท่าฯ ได้รับแจ้งจาก ผู้บังคับการเรือ ร.ล.สุโขทัย ขอนำเรือกลับเข้าเทียบท่า เนื่องจากน้ำเข้าเรือ เครื่องยนต์มีปัญหา หลังจากนั้นประมาณใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ร.ล.สุโขทัยได้แจ้งขอรับการสนับสนุนส่งเรือลากจูง (TUG) ทันทีที่ได้รับแจ้งท่าเรือประจวบฯ ได้ประสานเรือลากจูง (TUG) พร้อมให้การสนับสนุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ผู้ที่แชร์ข้อความดังกล่าวลบข้อความอันเป็นเท็จนั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทันที มิเช่นนั้นบริษัทฯ จะดำเนินการทางกฎหมาย บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ขอยืนยันในเจตนารมย์ในการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญเพื่อความปลอดภัยทางทะเล ดังแสดงให้เห็นจากความช่วยเหลือและสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติสำคัญที่ผ่านมา อาทิ
• สนับสนุนท่าเรือให้เป็นพื้นที่ปฏิบัติการความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติสำคัญเพื่อความปลอดภัยทางทะเลมาแล้วหลายครั้ง เช่น พายุชุมพร
• สนับสนุนกองทัพเรือ นำเรือหลวงสงขลา เรือหลวงบางระจัน และเรือตรวจการณ์ ต.114 กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ เข้าจอดเทียบท่า ในการออกปฏิบัติราชการสนับสนุนการตรวจสอบคราบน้ำมัน เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ป.อันดามัน 2 อัปปางโดยภายในเรือมีน้ำมันอยู่ประมาณ 5 แสนลิตร ระยะห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล
• สนับสนุนกองทัพเรือ จัดเรือ ต. 81 ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์