ปราจีนบุรี-คืบหน้า รถบรรทุกน้ำตาลทรายเบรคแตกชนรถบรรทุกน้ำเกลือกุ้งไฟลุกท่วม
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 6 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ตามที่เมื่อวันที่ 5 ม.ค 66 เวลา 17.24 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจ.ปราจีนบุรึ (สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี) ได้รับแจ้งจากมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจ.ปราจีนบุรี เกิดอุบัติเหตุเหตุรถบรรทุกน้ำตาลทรายจากภาคอิสานเต็มคันเพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรีเบรคแตก ช่วงทางลงจากภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ชนรถบรรทุกน้ำเกลือกุ้ง เกิดไฟลุกไหม้รถบรรทุกทั้งคู่ และเลยไปชนรถคันอื่นๆอีกรวม4คัน สถานที่เกิดเหตุบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 หรือสายสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา-กบินทร์บุรี บริเวณเขาสามโทน หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในที่เกิดเหตุมีรถคู่กรณี จำนวน 4 คัน จนกระทั่งเวลา 19.00 น. จึงสามารถดับไฟที่ลุกไหม้รถบรรทุกทั้ง 2 คันได้ มีผู้รับบาดเจ็บ 4ราย และล่าสุดเสียชีวิต1ราย ส่งผลให้ปิดช่องทางช่วงลงจากภูเขาฝั่งขาลงมุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี ตามรายละเอียดที่นำเสนอแล้วก่อนหน้านี้นั้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาารณภัยจ.ปราจีนบุรีรายงานว่า เวลา 03.08 น. วันนี้ 6 ม.ค.66 สามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บ ณ ที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ราย ส่งโรงพยาบาลนาดี
เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 1 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ดังนี้
1. นายสมศักดิ์ ประเดิมเนตร คนขับรถบรรทุกน้ำเกลือ เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลนาดี
2. นายอัครพล แก้วเชียงทอง อายุ 24 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกน้ำตาลทราย รักษาตัวโรงพยาบาลนาดี
3. นายคัมภีร์ ปะระทัง อยุ 37 ปี คนขับรถกระบะฯ บาดเจ็บเล็กน้อบ ไม่admit
4. น.ส.พรพิมล ขอบทองหลาง อายุ 37ปี ผู้โดยสารรถกระบะฯ บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่admit
5. นายณรงค์กด ขอบทองหลาง อายุ 34 ปี ผู้โดยสารรถกระบะฯ บาดเจ็บเล็กน้อยไม่admit
ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมสำหรับถนนสาย304 ช่วงผ่านบนภูเขาระหว่างอุทยานแห่งขาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งขาติทับลานมรดกโลก เป็นถนนสายเสี่ยงภัย! ที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงต่อเนื่องตลอดโดยเฉพาะกับรถบรรทุกโดยสาร และ รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มักเบรคแตก เนื่องจากถนนแคบ มีหลายทางโค้ง-ยาวไกลกว่า13กม. และ ความลาดชันสูง ที่ผ่านมา ทาง ครม.ได้มีการอนุมัตืเงินงบประมาณมากเกินกว่า10,000ล้านบาท ในการขยายผิวการจราจรเป็น4ช่องทาง พร้อมทำอุโมงค์ให้ยวดยานลอดผ่านด้านล่าง ระหว่างอุทยานฯ ส่วนด้านบนให้สัตว์ป่าเดินผ่านระหว่างผืนป่าดงพญาเย็น – การสร้างสะพานยกระดับสูงให้สัตว์ป่าเดินด้านล่าง ได้ปลอดภัย แต่ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จยังพบว่ายังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงและบ่อยครั้งเช่นเดิม และมีบ่อยครั้งมากกว่าสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน