ราชบุรี-ฮือฮา…! น้ำปริศนาซึมใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณ ชาวบ้านเชื่อน้ำทิพย์รักษาโรค

ภาพ-ข่าว:สุจินต์ นฤภัย (เต้)

           ศาสนิกชนจากหลายพื้นที่ ต่างพากันแตกตื่นฮือฮา หลังทราบข่าว น้ำปริศนาซึมจากบริเวณระหว่างใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณ และข้อศอกองค์พระราหู วัดเขากรวด จ.ราชบุรี ศาสนิกชนเชื่อเป็นน้ำทิพย์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ต่างพากันแห่นำมาลูบตามตัว เชื่อรักษาโรคได้
           เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดเขากรวด ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังได้รับรายงานว่า มีน้ำปริศนาที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น น้ำทิพย์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ไหลซึมออกมาตลอดเวลา จากบริเวณระหว่างใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณ และข้อศอกองค์พระราหู ที่ตั้งประดิษฐานอยู่หน้าวิหารถ้ำราหูบารมี ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีแหล่งน้ำ และไม่ท่อน้ำหรือมีสิ่งที่จะทำให้เกิดน้ำได้ ทั้งไม่ใช่หน้าฝน แต่บริเวณดังกล่าวกลับมีน้ำไหลซึมออกมาอย่างน่าแปลกประหลาด สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านทั่วสารทิศที่พากันมาทำบุญ จนต้องนำน้ำดังกล่าวมาลูบตามหัวตามตัว เพราะเชื่อเป็นน้ำทิพย์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ จากองค์ท้าวเวสสุวรรณ และองค์พระราหู ประทานมาให้ เพื่อใช้รักษาโรคและทำให้มีโชคลาภ
           จากการสอบถาม พระสถาพร โชติวโร ผช.เจ้าอาวาส วัดเขากรวด เปิดเผยว่า อาตมาได้ทราบเรื่องจากทางเจ้าอาวาส ว่ามีน้ำซึมออกมาจากใต้ฐานองค์ท้าวเวสสุวรรณ และองค์พระราหู มาตั้งแต่จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี แต่คิดว่าน่าจะเป็นน้ำที่ไหลออกมาจากดอกไม้สดหรือน้ำขวด ที่ญาติโยมนำมากราบไหว้ แต่พอไปดูก็แปลกใจเพราะไม่มีพวงมาลัยดอกไม้สดหรือน้ำขวด ที่ญาติโยมนำมากราบไหว้วางไว้อยู่บริเวณดังกล่าว
            แต่กลับมีน้ำไหลซึมออกมาจากใต้ฐาน จนพื้นโดยรอบเปียกและเจิ่งนองพื้น พอเช็คไปแล้วก็มีน้ำไหลออกมาอีก ทำให้ทุกคนต่างพากันแปลกใจ เพราะใต้ฐานและบริเวณดังกล่าว ไม่มีการวางท่อน้ำ ไม่มีสิ่งที่จะทำให้เกิดน้ำไหลได้ แต่ทำไมกลับมีน้ำไหลซึมออกมาได้ จนมีชาวบ้านจากหลายพื้นที่เดินทางมากราบไหว้ มาดูกันเป็นจำนวนมาก และต่างพากันลื้อว่า เป็นน้ำทิพย์และน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากองค์ท้าวเวสสุวรรณ และองค์พระราหู ประทานมาให้

            ทำให้มีชาวบ้านบางคนนำน้ำมาลูบ ตามหัวตามตัวและตามร่างกายจุดต่างๆที่เจ็บป่วย เพราะเชื่อว่าน้ำดังกล่าวรักษาโรคได้ และน้ำดังกล่าวจะทำให้โชคดีมีโชคลาภ จนเมื่อวานนี้ ได้มีโยมจากบางแค กรุงเทพฯ เดินทางมาที่วัด แล้วเล่าให้อาตมาฟังว่า เขามีอาชีพขับรถแท็กซี่ แต่กลับมาป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ จนไม่สามารถขับรถได้ แต่กลางเดือนธ.ค.65 ได้มีช้างสีทองมาเข้าฝันและบอกว่า ถ้าอยากหายป่วย ให้ไปที่วัดเขากรวด แล้วจะหายจากโรค
            จนช่วงปีใหม่โยมคนนั้น จึงให้ญาติพามาที่วัดเพื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งสักดิ์สิทธิภายในวัด ขนมาพบช้างทองและช้างเงิน ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหารถ้ำราหูบารมี หน้าที่ตั้งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสิน เมื่อกราบไหว้เสร็จเมื่อมีอะไรดลใจเขา ให้ไปบริเวณใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณ จนเขาเห็นน้ำดังกล่าวไหลออกมาจึงให้ญาตินำน้ำมาทาที่ตัว จนวันนี้เขากลับมาที่วัดโดยขับรถมาด้วยตัวเอง และบอกว่าน้ำนั้นเป็นน้ำทิพย์ เพราะทำให้เขาหายจากโรคอัมพฤกษ์

           ด้าน นางเพลินตา ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า หลังเธอรู้ข่าวว่ามีน้ำทิพย์ซึมออกมาจากฐานท้าวเวสสุวรรณและพระราหู จึงรีบมาดูรู้สึกงงและประหลาดใจ ว่ามีน้ำซึมออกมาได้ยังไง และน้ำมาจากไหน แต่เธอเชื่อว่า น้ำนั้นเป็นน้ำทิพย์หรือน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน และเชื่อว่าเทวดาบันดาลลงมาให้เป็นน้ำสิริมงคลใช้รักษาโรคได้ เมื่อเธอลองเอามาทาที่บริเวณขาของเธอที่เคยเจ็บป่วย ก็หายดีอย่างน่าประหลาดใจ ครั้งแรกที่ลูบลงไปบริเวณเจ็บป่วยจะรู้สึกตึงเดินไม่สะดวก แต่สักครู่ก็อ่อนตัวลงและเดินสบายได้อย่างไม่เจ็บเหมือนแต่ก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเจ็บป่วยหลายโรค จนท้าวเวสสุวรรณ ไปเข้าฝันให้มาที่วัดแล้วจะหาย เมื่อเธอมาที่วัดและรักษาศีลทุกวันนี้ก็หายดีปกติทุกอย่าง
           ขณะที่ นางฝน (นามสมมุติ) สองสามีภรรยาชาวเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายจอห์น (นามสมมุติ) สามีของเธอเกิดล้มป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ ทำให้เป็นอัมพาตไปครึ่งซีก โดยช่วงระหว่างที่นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู สามีของเธอไม่รู้สึกตัวนานถึง 9 วัน จนหมอแจ้งให้เธอและญาติทำใจ เธอซึ่งเป็นภรรยาและลูกชายอีก 2 คน แต่พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สามีอาการดีขึ้นรู้สึกตัวขึ้นมา แม้สามีเธอฟื้นแล้วเป็นอัมพาตเธอและลูกก็ยอม

           จนน้องชายของเธอแนะนำให้ไปไหว้ ไอ้ไข่ และท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดเขากรวด เธอกับลูกจึงขี่รถจยย.ไปที่วัดเขากรวด เพื่อไปบนขอ ไอ้ไข่ และ ท้าวเวสสุวรรณ ให้สามีเธอฟื้นขึ้นมา จนในวันเดียวกันช่วง 1 ทุ่ม ทางรพ.แจ้งว่าสามีของเธอฟื้นแล้ว ทุกคนในครอบครัวดีใจและประหลาดใจมาก และคิดว่าต้องเป็นเพราะ ไอ้ไข่ และ ท้าวเวสสุวรรณ ช่วยอย่างแน่นอน ซึ่งขณะที่สามีเธออยู่ในห้องไอซียู ไม่มีใครสามารถเข้าไปเยี่ยมได้ แต่สามีเธอกลับเราให้ฟังว่า มีเด็กใส่ชุดทหาร เข้ามาค่อยดูแลอาการให้ ซึ่งเธอและลูกชายเชื่อว่า นั้นคือไอ้ไข่อย่างแน่นอน ที่เข้ามาช่วยดูแลสามีของเธอให้อาการดีขึ้น
           นางฝน เล่าอีกว่า จนวันนี้เวลาผ่านไป 1 ปีกว่า สามีเธอมีอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งที่หมอบอกว่า ให้เธอและญาติทำใจ แต่สามีเกือบเดินได้เป็นปกติแล้ว เธอและลูกชายจึงพาสามีมาแก้บน ไอ้ไข่ และท้าวเวสสุวรรณ ด้วยประทัดแสนเสียงถึง 1 แสนนัด ซึ่งเธอสั่งมาจากวัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช

           โดยหลังแก้บนเสร็จ เธอทราบเรื่องน้ำซึมออกมาจากใต้ฐานท้าวเวสสุวรรณ เธอและสามีเชื่อว่า นั้นเป็นน้ำทิพย์น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านมอบให้ เธอและสามีจึงนำน้ำดังกล่าวมาทาตามตัวสามี เพื่อจะให้สามีหายเป็นปกติโดยเร็ว ซึ่งหลังทาสามีมีอาการร้อนบริเวณที่ทา แต่สักพักอาการก็ดีขึ้น ทำให้สามีมีแรงยกแขนขาก้าวเดินได้ตามปกติ ขณะทำให้สามีและเธอ ลืมไม้เท้าที่สามีเอาไปด้วยไว้ที่วัด จนต้องกลับมาเอาไม้เท้าที่วัดอีกครั้ง