สส.ประมวล ยันปัญหาที่ทำกินในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน 1.5 แสนไร่ ไม่เดินหน้าหากกรมป่าไม้เมินเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนฯ
ภาพ/ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
สส.ประมวล ยันปัญหาที่ทำกินในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน 1.5 แสนไร่ ไม่เดินหน้าหากกรมป่าไม้เมินเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนฯ
วันที่ 18มกราคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีชขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ตอบข้อหารือในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีที่คตนขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนในเขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ชี้แจงว่า การจัดที่ดินทำกินให้ราษฎร โดยการตราพระราชกฤษฎีกา( พ.ร.ก.) จัดตั้งนิคมสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 นั้นกรมป่าไม้ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช – คลองกรูด กับป่าพุน้ำเค็ม ต้องเสนอต่ออนุกรรมการจัดหาที่ดินเพื่อพิจารณาทบทวนหรือยกเลิกพื้นที่ดังกล่าว แล้วนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติหรือ (คทช.) เพื่อเพิกถอนสภาพป่าสงวนฯ จากนั้นมอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ตรา พ.ร.ก.จัดตั้งนิคมสหกรณ์บางสะพานตาม พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ผู้นำท้องที่และตัวแทนภาคประชาสังคม ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย กว่า 1000 คน ร่วมกันเปิดเวทีสาธารณะ รับฟังความคิดเห็นสิทธิชุมชนความชอบธรรมที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยพื้นที่เขตนิคมสหกรณ์บางสะพาน ครอบคลุมพื้นที่ อ.บางสะพาน และ บางสะพานน้อย 9 ตำบล 53 หมู่บ้าน 156,700 ไร่ มีสมาชิกในเขตนิคม 7,252 ครัวเรือน ซึ่งเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่ผ่านมา กว่า 46 ปี ประชาชนไม่มีสิทธิในที่ดินทำกินมีรายงานว่า การจัดเวทีสาธารณะ เพื่อรับฟังความคิดเห็นตามหลักสิทธิชุมชน มีการสนอแนวทางที่ 1 การจัดที่ดินในรูปนิคมสหกรณ์ตามพ.ร.บ. เพื่อการครองชีพฯให้แก่สมาชิกที่ปฏิบัติครบถ้วนตามมาตรา 11 เป็นเวลาเกินกว่า 5 ปี โดยอธิบดีกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (กสน.5) ให้แก่ผู้นั้น โดยขอให้กรมป่าไม้ยกร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ สำหรับแนวทางที่ 2 โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.รูปแบบพิเศษ) เพื่อออกเอกสาร (ปส.23) ให้ประชาชนมีสิทธิอยู่อาศัยทำกิน และต้องช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์พื้นที่ ขณะที่ประชานส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 1