พลิกปูมประวัติ “จุรินทร์” ไม่ธรรมดา ประชาธิปัตย์ส่งชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) มีมติอย่างเป็นทางการแล้วเห็นชอบให้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐของพรรคเพียงชื่อเดียว ตามที่ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรค เป็นผู้เสนอ พรรคประชาธิปัตย์พิจารณาแล้วเห็นว่า “จุรินทร์” มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสมทั้งความรู้ ความสามารถ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ทำงานการเมืองมายาวนาน ตั้งแต่อายุ 30 ต้นๆ อายุ 36 ปีก็นั่งตำแหน่งฝ่ายบริหารแล้ว มีประสบการณ์ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย ที่สำคัญมีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะช่วยนำทัพประชาธิปัตย์สู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ประชาชนจะตัดสินใจกาคะแนนให้ทั้งส.ส.เขต และพรรค (ปาร์ตี้ลิสต์)
ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นประธานรัฐสภา เอื้อนเอ่ยถามคนใกล้ชิดว่า “จุรินทร์ผิดตรงไหน” กับกระแสข่าว และคำครหานินทา ไม่มีกระแสบ้าง ไม่มีผลงานบ้าง “จุรินทร์” มีคุณสมบัติไม่แพ้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่น หรือมากกว่าด้วยซ้ำคาดิเดตนายกรัฐมนตรีของบางพรรคไม่เคยเป็น ส.ส.ไม่เคยนั่งตำแหน่งบริหารก็มี หรือบางคนเป็น ส.ส.แค่ 1 สมัยพรรคก็เสนอให้เป็นคาดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว ประสบการณ์งานบริหารก็ไม่มี “อู๊ดดา”คือชื่อที่จุรินทร์ใช้ในการเขียนการ์ตูนล้อเลียนการเมือง คือจุดเริ่มต้นกับการสัมผัสการเมือง หลังจากนั้นลงสมัคร ส.ส.พังงา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นส.ส.มาแล้ว 11 สมัย ทั้งเป็นส.ส.เขต ที่ จ.พังงา 6 สมัย
และบัญชีรายชื่อ 5 สมัย และอยู่กับประชาธิปัตย์มาตลอด ไม่เคยย้ายไปไหน “จุรินทร์” เคยเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขยับเป็นรองหัวหน้าพรรคตั้งแต่ปี 2546 ก่อนจะนั่งหัวหน้าพรรคเมื่อ 15 พฤษภาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน
ประสบการณ์งานฝ่ายนิติบัญญัติ ในสภาผู้แทนราษฎร เคยได้ตำแหน่ง “ส.ส.ดาวรุ่ง” และเป็นทั้งประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้าน และถือเป็นคนอภิปรายสรุปญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ส่วนงานด้านฝ่ายบริหารก็ผ่านมาไม่น้อย เคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข เลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย) ก่อนขึ้นเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ในเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนขึ้นชั้นนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
รัฐบาลปัจจุบัน “จุรินทร์”เป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตลอดเกือบ 4 ปีมีผลงานไม่น้อย โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกพืช 5 ชนิด (ข้าว-ยางพารา-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด-ปาล์มน้ำมัน) ที่ช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ราคาตก ไม่ให้เดือดร้อนเกินไป ที่สำคัญปิดช่องโหว่ไม่ให้มีการทุจริตเหมือนที่ผ่านๆ มา นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นผลงานอีกชิ้น คือการหารายได้เข้าประเทศจากการส่งออกในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก วิกฤติโควิต แต่ตัวเลขส่งออกของไทยเป็นบวกต่อเนื่อง อันเกิดจากการขยันเดินสายของจุรินทร์ เปิดตลาดส่งออกใหม่ๆกับหลายประเทศ รวมถึงการเปิดตลาดการค้าตามแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
หลังไทย-ซาอุ เปิดความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นมาอีกรอบ ตลาดการค้าก็เริ่มขค้นใหม่ “จุรินทร์” รุกเปิดตลาดการค้าทันที พร้อมร่วมจัดตั้ง ”สภาธุรกิจ ไทย-ซาอุ” ขึ้นเป็นครั้งแรก ตั้งเป้าส่งออกสินค้าไทยไปซาอุฯเพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาทใน 1 ปี และซาอุฯพร้อมหนุนทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทยกับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศ (GCC) ได้แก่ซาอุฯ คูเวต การ์ตา โอมาน บาเรนและยูเออี “จุรินทร์” ยังมีส่วนในการผลักดันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)เมื่อครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และเป็นผลสำเร็จในเวลาต่อมา “อาร์เซ็ป” เป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิก 15 ประเทศ คืออาเซียน 10 ประเทศ อีก 5 ประเทศได้แก่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีจีดีพีรวมกัน 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 33.6% ของจีดีพีโลก มูลค่าการค้ารวม 10.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 30.3% ของมูลค่าการค้าของโลก
ล่าสุด “จุรินทร์” เพิ่งเดินทางไปเยือนประเทศเบลเยียม เจรจาเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ไทย-อียู สำเร็จ เตรียมลงนามต่อไป จะทำให้ไทยมีแต้มต่อในการส่งออกไปอียู (27 ประเทศ) ไม่แปลกที่ “ชวน หลีกภัย”จะตั้งคำถามว่า “จุรินทร์”ผิดตรงไหน กับผลงานมากมาย และไม่มีจุดด่างพร้อย เพียงแต่เขาเข้ามาในสถานการณ์ตกต่ำของประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง