นนทบุรี-เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือหนุ่มไรเดอร์สู้ชีวิตขาพิการ 2 ข้าง
ภาพ-ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 ก.พ.66 น.ส.ลลิตา นิยมรัตน์ นักสงคมสงเคาะห์ (พม.)สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่บ้านเลขที่53/12 หมู่บ้านคุณาลัย ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเทวากร ทับทิมศรี หรือเม่ง อายุ 32 ปี หนุ่มไรเดอร์สู้ชีวิตขาพิการทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้การช่วยเหลือหลังทราบว่าก่อนหน้านี้นายเทวากร เคยประกอบอาชีพขายนำ้ส้มและขนมปังแซนด์วิช หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บางบัวทอง แต่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 จนขาดรายได้และต้องเลิกอาชีพไป ก่อนจะมาขับรถรับส่งอาหารแทนแบบทุกวันนี้
นายเทวาการ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณปี 2563 ตนมีอาชีพขายนำ้ส้มและขนมปังแซนด์วิชที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บางบัวทอง แต่เมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในช่วงนั้นทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน ไม่มีเด็กนักเรียนมาเรียนจึงทำให้ขายของไม่ได้ของที่รับมาก็เสียหายจนขาดทุนอย่างหนัก จึงตัดสินใจเลิกขายของลองหางานอย่างอื่นทำแต่ก็ไม่มี จึงตัดสินใจมาขับรถเป็นไรเดอร์รับส่งอาหารหาเงินเลี้ยงชีพไปวันๆ เพราะไม่อยากทำให้ครอบครัวต้องมาเดือนร้อนเพราะตนโดยเฉพาะแม่
วันนี้รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่เข้ามาให้การช่วยเหลือนำเงินสด อาหารแห้งและของใช้ที่จำเป็นเข้ามาให้ แต่ที่ดีใจที่สุดคือการที่เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือจัดหาเงินลงทุนให้ตนได้กลับไปขายนำ้สัมและขนมปังแซนด์วิชเหมือนเมื่อก่อน เพราะเป็นงานที่ตนชอบที่สุดต่างกับการขี่รถจยย.รับส่งอาหารที่แต่ละครั้งต้องเสื่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้รับอุบัติเหตุมาแล้ว 3 ครั้งแต่โชคดีไม่เป็นอะไรมาก นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังจะติดต่อรพ.ที่ทำโรงเท้าสำหรับผู้พิการที่เท้าแบบตนให้อีกด้วยเพื่อไม่ให้เกิดบาดแผลกดทับที่เท้า
ด้านนางลลิตา กล่าวว่าหลังทราบเรื่องวันนี้ได้เดินทางเข้ามาให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นโดยมีการมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งและของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้จากการพูดคุยสอบถามทราบว่าน้องผู้พิการเคยประกอบอาชีพขายนำ้สัมและขนมปังแซนด์วิชมาก่อนแต่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ขายของไม่ได้จนต้องเลิกขายไปและหันมาขับรถจยย.รับส่งอาหารแทน ซึ่งตัวน้องผู้พิการอยากจะกลับไปประกอบอาชีพค้าขายเหมือนเดิม ทางเรามีโครงการช่วยเหลือผู้พิการในการให้กู้ยืมเงินไปลงทุนประกอบอาชีพอยู่แล้วโดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยโดยจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เขาสามารถกลับไปขายของได้อย่างที่ต้องการ นอกจากนี้ในเรื่องของสุขภาพก็จะประสานกับทางรพ.ที่มีการตัดโรงเท้าเฉพาะสำหรับคนพิการให้กับเขาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพราะแผลกดทับต่อไป